นักวิเคราะห์เตือนดัชนีช่วงบ่ายมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไร

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงเช้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ไปที่ 1,591.37 จุด ลดลง 3.59 จุด เปลี่ยนแปลง -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 26,723.55 ล้านบาท ระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,601.92 จุด และต่ำสุดที่ 1,589.99 จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ความผันผวนจากหุ้นต่างประเทศยังมีอยู่สูง เพราะนอกจากจะเรื่องกรีซแล้ว ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยเร็วของ Fed ด้านปัจจัยในประเทศก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังโดยเฉพาะการขายสุทธิของสถาบันในประเทศมใน Set 50 ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา กว่า 3.8 หมื่นสัญญา ขณะที่ Trigger Fund ที่เสนอขายไปเมื่อ ต.ค.-ธ.ค.57 จำนวน 9 กอง เพิ่งจะมีการปิดกองไปเพียงแค่ 2 กอง ยังเหลืออีกกว่า 7 กอง มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท ที่สามารถปิดกองได้ตลาดเวลา อย่างไรก็ตาม ตลาดุห้นไทยยังมีประเด็นความหวังเกี่ยวกับโอกาสในการลดดอกเบี้ยของ กนง.ซึ่งหากมีการลดดอกเบี้ยลงมา 0.25% อาจทำให้ Earning yield gap ปรับขึ้นจาก 3.65% ในปัจจุบันเข้าใกล้ 4% มากขึ้น พร้อมคาดการณ์ช่วงบ่ายดัชนีหุ้นไทยยังคงมีโอกาสแกว่งตัวเพราะเนื่องจากเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรเข้ามาเรื่อยๆ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และพลังงานยังไม่ฟื้นตัว จึงเป็นความเสี่ยงที่ดัชนีฯ อาจอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายนี้

กลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์ในสถานการณ์นี้ M(FV@B65) และ SENA(FV@B4.5) เลือกเป็น Top picks

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,693.52 ล้านบาท ปิดที่ 355.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

TRU มูลค่าการซื้อขาย 1,490.13 ล้านบาท ปิดที่ 13.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

SIRI มูลค่าการซื้อขาย 1,020.49 ล้านบาท ปิดที่ 1.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 862.22 ล้านบาท ปิดที่ 242.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 857.65 ล้านบาท ปิดที่ 2.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท