เกียรตินาคินหวังสินเชื่อปีนี้โต 6% หันมาเน้นกลุ่มสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อบรรษัท หลังเช่าซื้อรถยังโงหัวไม่ขึ้น เผย 3 กลยุทธ์ เร่งปรับสาขา-พนง.รุกธุรกรรมครบวงจร หาพันธมิตรเพิ่ม และเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย รับปีนี้ยังอ่วมผลกระทบขาดทุนรถมือสอง แต่ไม่มากเท่าเก่า
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อรวมที่ 6% จากยอดคงค้างสินเชื่อรวม 180,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการขยับเคลื่อนของสินเชื่อบรรษัท และสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก เช่นกันเดียวกับปีที่แล้ว ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อที่มีสัดส่วนประมาณ 67% ของพอร์ตรวมสินเชื่อ น่าจะยังชะลอตัวลงต่อเนื่อง หลังจากถูกกระตุ้นด้วยอย่างผิดธรรมชาติด้วยโครงการรถยนต์คันแรก รวมถึงหนี้คครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงทำให้ยังต้องมีความเข้มงวดในการปล่อยกู้อยู่
ทั้งนี้ แนวทางในการดำเนินงานในปีนี้ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) จะเน้นกลยุทธ์ 3 ด้านใหญ่ เริ่มจากการพัฒนาช่องทางในการให้บริการ ทั้งส่วนของสาขาที่ต้องมีการปิด เปิด ปรับปรุงให้สอดคล้องกับแนวทางการทำธุรกิจมากขึ้น อาทิ เน้นด้านให้คำปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคลมากขึ้น เป็นต้น โดยคาดว่าดำเนินการเสร็จสิ้นจะมีสาขาประมาณ 90 แห่งจากปัจจุบัน 86 แห่ง
นอกจากนี้ จะเป็นการเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจ โดยธนาคารได้ร่วมลงนามในสัญญาทำธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์กับบริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โดยธนาคารจะเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์แต่เพียงรายเดียวเป็นระยะเวลา 15 ปีผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา และล่าสุด ธนาคารได้รับการคัดเลือกให้เป็น Captive Partner กับซูซูกิ โดยเริ่มดำเนินการแล้วในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ส่วนประการสุดท้ายที่สำคัญคือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มีความหลากหลาย อาทิ บัตร KK ATM ที่เพิ่มความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ และชดเชยรายได้ (ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตร) นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ความร่วมมือของกลุ่มธุรกิจฯ โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Lombard Loan เป็นการให้เงินกู้สำหรับลูกค้าบุคคลรายใหญ่ของธุรกิจตลาดทุน ซึ่งใช้เงินลงทุนของลูกค้าเป็นหลักประกัน โดย Lombard Loan นี้ เป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานของ Private Banking ทั่วโลกที่ให้บริการอยู่ แต่ยังค่อนข้างใหม่ในเมืองไทย คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในกลางปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าส่วนนี้จะได้ช่วยขยายฐานลูกค้าของธนาคารได้มาก จากพอร์ตลงทุนของลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
“เราพยายามที่จะกระจายพอร์ตสินเชื่อจากเดิมที่สินเชื่อเช่าซื้อมีสัดส่วนอยู่ 73% ก็กระจายไปธุรกิจอื่นมากขึ้น ทั้งในส่วนของสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อธุรกิจ ทำให้ปัจจุบันสินเชื่อเช่่าซื้อสัดส่วนเหลือ 67% ส่วนปีนี้แม้ยอดขายรถยนต์ปีนี้น่าจะเติบโตกว่าปีก่อน โดยคาดว่าจะมียอดขาย 950,000 คัน แต่เมื่อเทียบกับตอนโครงการรถคันแรกเมื่อปี 56 ที่มียอดขายถึว 1.4 ล้านคันแล้ว ก็ยังน้อยกว่า และสินเชื่อเช่าซื้อรถเป็นสินเชื่อที่ตัดคืนเร็วทำให้ยอดสินเชื่อยังคงลดลงอยู่ ขณะที่ผลกระทบจากราคาลดมือสองที่ลดลงก็ยังคงมีอยู่ แต่น่าจะไม่มากเท่าปีก่อนที่มีผลขาดทุนถึง 2,047 ล้านบาท”
สำหรับปี 2557 กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร มีกำไรสุทธิรวม 2,636 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 40.3% ในส่วนของรายได้รวมอยู่ที่ 14,537 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 8,926 ล้านบาทหรือคิดเป็น 61% ของรายได้รวม ที่เหลือคือรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 5,611 ล้านบาท (39%) สำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์มีเงินให้สินเชื่อรวมจำนวน 184,777 ล้านบาท ลดลง 3.2% ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า และการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือน มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 5.6% สำหรับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ตามเกณฑ์ ธปท.อยู่ที่ 15.16% (เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 จำนวน 14.77%)