เมื่อเวลา 10.22 น.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,596.02 จุด เพิ่มขึ้น 7.71 จุด เปลี่ยนแปลง +0.49% มูลค่าการซื้อขาย 9,816.81 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีเป็นการรีบาวนด์สั้นๆ หลังการปรับตัวลดลงของดัชนีวานนี้ จากการที่ตลาดคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ กนง.จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28 มกราคมนี้ ทำให้ SET Index มีโอกาสที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากธีม PE expansion ในช่วงถัดไป รวมถึงการติดตามประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่มีผลต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้ ด้านในประเทศ ประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองไม่สร้างแรงกดดันมากนัก ติดตามความคืบหน้าโครงการ Nano Finance ในวันนี้คาดหมายการ Rebound ของหุ้นในประเทศอย่าง ธนาคาร นิคม รับเหมาก่อสร้าง และเน้นการลงทุนในหุ้นรายตัว ที่มีงบไตรมาส 4 โดดเด่น และมีการจ่ายปันผลที่น่าพอใจ
“เราคงมุมมองเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 2 แม้ว่า SET INDEX จะปรับฐานลงแรง 10.09 จุดแต่เป็นผลของ BAY มากถึง 9.50 จุด และหาก BAY วันนี้ปรับฐานลงต่อ ย่อมกดดันต่อ SET50 Index และ SET INDEX ในภาพรวมเช่นกัน เพียงแต่เราอยากแนะนำให้นักลงทุนมุ่งเน้นที่ทิศทางการลงทุนในหุ้นเป้าหมายมากกว่าภาพรวมของ SET INDEX ที่ถูกกำหนดทิศทางจาก BAY เป็นหลัก กลายเป็นภาพ “ลวงตา” ของการลงทุน” นักวิเคราะห์ กล่าว
พร้อมแนะนำ SET Index ยังคงปรับตัวแข็งแกร่ง หากตัดปัจจัยของ BAY จึงแนะนำการ Let profit run หุ้นในพอร์ตโฟลิโอต่อไป หลังคาดการณ์จะมีปัจจัยบวกเข้ามาอีกจากการลดดอกเบี้ยของ กนง. ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการขยายตัวของ SET Index ผ่านปรากฏการณ์ PE expansion ได้ถึง 50 จุด มองแนวรับแรกดัชนีที่ 1๙540 จุด ซึ่งยังคงใช้ให้เป็นจุดในการสะสมหุ้นเพิ่มเติม
“นักลงทุนเริ่มทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาหุ้นปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย โดยเน้นหุ้นขนาดใหญ่ หรือหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น เป็นทางเลือกของการลงทุนในรอบสั้นนี้” นักวิเคราะห์ กล่าว