หุ้นปิดบวก 1.50 จุด ดัชนีพยายามขึ้นทดสอบ 1,600 จุด โดยมีกระแสเงินทุนทั้งในและนอกประเทศยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างหนาแน่น ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้น หากเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ แนะจับตา “กนง.-เฟด” ในการปรับ ดบ.นโยบาย
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,589.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 62,859.26 ล้านบาท โดยวันนี้ดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ1,605.67 จุด และขยับลงแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,586.94 จุด
ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภท มีดังนี้ นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 659.07 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 347.02 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 3,360.77 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศ ขายสุทธิ 3,048.72 ล้านบาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นโดยมีปัจจัยมาจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าที่ยังอยู่ในระดับสูง จากผลของการที่ญี่ปุ่นออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE)และยุโรปน่าจะดำเนินมาตรการ QE ช่วงเดือนมี.ค.นี้ ส่งผลให้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในแถบเอเชียมากขึ้น
ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีซีมิโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวบวก มีจังหวะขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมา เนื่องจากยังไร้ปัจจัยลบเข้ามากระทบ อีกทั้งกระแสเงินทุนทั้งในและนอกประเทศยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างหนาแน่น ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นหากเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะแรงซื้อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม กรอบการปรับตัวขึ้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่า กนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 2.00% เนื่องจากยังไม่ใช่ช่วงเวลาของการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่ง ณ ปัจจุบัน การกระตุ้นเศรษฐกิจดำเนินการผ่านนโยบายการคลังด้วยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อยู่แล้ว
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่อท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าจะคงแผนการเดิมว่าจะปรับขึ้นช่วงกลางปีนี้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าเฟดน่าจะยังคงแผนการเดิมไว้ ไม่รีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวยังไม่แข็งแกร่งมากนัก ขณะที่ผลการเลือกตั้งกรีซ มองว่าส่งผลกระทบต่อไทยน้อย แต่จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศในยุโรปมากกว่า
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันพุ่งนี้ คาดว่าหุ้นไทยแกว่งตัวบวกในกรอบจำกัด นักลงทุนรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงแผนการเดิมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ กลยุทธ์ แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัว พร้อมประเมินแนวรับ 1,580-1,575 จุด แนวต้าน 1,604-1,628 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ มีดังนี้
1.ITD ปิดที่ 8.70 บาท ลดลง -0.15 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,527.55 ล้านบาท
2.TRUE ปิดที่ 13.20 บาท ลดลง -0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,414.43 ล้านบาท
3.KBANK ปิดที่ 232.00 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,708.78 ล้านบาท
4.BBL ปิดที่ 196.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,662.56 ล้านบาท
5.KTB ปิดที่ 23.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,557.49 ล้านบาท