หุ้นจีนเริ่มส่งสัญญาณบวก แนะเข้าลงทุนช่วงราคาถูก

บลจ.แอสเซท พลัส มองหุ้นจีนเริ่มส่งสัญญาณดีดตัวหลังรัฐบาลจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะปรับพอร์ตลงทุนรับจังหวะหุ้นจีนราคายังไม่แพง

นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงและอาจเติบโตเพียง 7% ในปีนี้ โดยอาจได้เห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก รวมถึงอาจมีการออกนโยบายเฉพาะกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งปัจจัยพื้นฐานของจีนยังถือว่าดี มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล

ทั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจของจีนยังมีการเติบโตและยังน่าลงทุนในระยะยาว โดยการลดอัตราดอกเบี้ยของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในหุ้นจีน ซึ่งรัฐบาลจีนต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เศรษฐกิจจีนจะเติบโตในระดับประมาณ 7% ต่อเนื่องไป จนการลงทุนทางเศรษฐกิจพัฒนาเติบโตเต็มที่แล้วอัตราการเติบโตของดีจีพีจึงจะเริ่มลดการเติบโตลงมา

ขณะที่การลงทุนในหุ้นจีน แม้ว่าตลาดหุ้นอาจจะปรับตัวขึ้นมายังไม่มากนัก แต่จากการที่รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจและเข้าไปลงทุน แต่ตลาดหุ้นจีนนั้นส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากจึงทำให้ตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเลือกหุ้นแบบรายตัวในกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจใหม่และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน รวมทั้งการลงทุนในตลาด A-Share จะเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยหุ้นในตลาด A-Share และ H-Share ให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกันขึ้นอยู่กับการเลือกเข้าไปลงทุน โดยตลาดหุ้น A-Share จะเป็นการเข้าไปลงทุนแบบที่มีจุดประสงค์ต่างจากหุ้นกลุ่ม H-Share

“ปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลประเทศต่างๆ มีการเปลี่ยนและส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน ดังนั้นควรจะกระจายการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งตลาดสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ซึ่งพอร์ตลงทุนในปีนี้แนะนำลงทุนในหุ้น 50% ตราสารหนี้ 20% ทองและน้ำมัน 15% เงินสด 15% โดยในส่วนของการลงทุนหุ้นแนะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 30% ยุโรป จีน และญี่ปุ่นอย่างละ 15% ไทย 20% และอื่นๆ 15%”นายรัชต์กล่าว

ทั้งนี้ ตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดนั้นพบว่า นักวิเคราะห์ยังให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นจีนหลังจากที่จีนเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลงอีก ขณะที่ราคาหุ้น MSCI China อยู่ที่ 9.4 (เฉลี่ย 12.4), FTSE China A50 อยู่ที่ 9.5 (เฉลี่ย 14.1) ต่ำกว่าดัชนีหุ้นหลักๆ ในภูมิภาค ถือเป็นระดับราคายังน่าสนใจ ดังนั้นการปฏิรูปที่มุ่งการเติบโตอย่างยั่งยืนช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และน่าจะทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาซื้อขายที่ระดับ P/E สูงขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพ