xs
xsm
sm
md
lg

อินเด็กซ์ฯ เผยแผนปี 58 ทุ่ม 1.5 พันล.ขยายตลาดบุก ตปท.-เพิ่มสาขา ตจว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ
อินเด็กซ์ เปิดแผนตลาดปี 58 เตรียมเม็ดเงิน 1,500 ล้านบาท ลุยขยาย 4 สาขาใหม่ในต่างจังหวัด เดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศเน้นกลุ่มอาเซียน ล่าสุด เซ็น MOU เอสเอ็ม กรุ๊ป ค้าปลีกอสังหาฯ ท็อป 5 บุกตลาดฟิลิปปีนส์ คาดเปิดบริการปี 59 หลังขยายอินเด็กซ์ สาขา 2 มาเลเซีย ร่วมกับอิออน แจงเปิดกว้างหาพันธมิตรในรูปแบบการร่วมทุน-แฟรนไชส์ ลงทุนใน 3 ประเทศ เวียดนาม อินโดฯ กัมพูชา วางเป้าปี 58 ยอดขาย 10,000 ล้านบาท โตจากปีก่อน 5% แจงไตรมาสแรกโหมการตลาดเข้มข้น จัดซีซันนอลแคมเปญช่วงเทศกาล ลากยาวตั้งแต่ปีใหม่ วาเลนไทน์ จนถึงตรุษจีน

น.ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ กล่าวว่า อินเด็กซ์ฯ ยังเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อินเด็กซ์ฯ ได้เปิดบริการ 2 สาขา คือ 1.สาขารัสเซีย ในรูปแบบของแฟรนไชส์ ที่เมือง Barnaul แคว้น Altai และอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเปิดสาขาที่ 2 ภายในปีนี้ 2.สาขาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นสาขาแรกในมาเลเซีย หลังจากการเข้าร่วมทุน (Joint Venture) กับอิออน ประเทศมาเลเซีย โดยสาขาแรกมีขนาดพื้นที่ 6,800 ตารางเมตร (ตร.ม.) ตั้งอยู่ ณ ไอโอไอ ซิตี้ มอลล์ เมืองปุตราจายา ศูนย์กลางการบริหารราชการแห่งใหม่ของมาเลเซีย

สำหรับศักยภาพของตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านในมาเลเซีย มีอัตราการเติบโตในทิศทางที่ดี ปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตัวของตลาดอสังหาฯ หลังจากเปิดให้บริการเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา พบว่า มีผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยตั้งเป้ายอดขายสาขาแรกไว้ที่ 350 ล้านบาท ล่าสุด อินเด็กซ์ฯ เตรียมเปิดให้บริการสาขาที่ 2 ที่เมืองชาอารับ รัฐสลังงอร์ ซึ่งมีพื้นที่ 5,000 ตร.ม.คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ของปีนี้ ทั้งนี้ อินเด็กซ์ฯ มีแผนงานขยายสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในประเทศมาเลเซียให้ครอบคลุมกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 15-20 ปีจากนี้

นอกจากการเปิดให้บริการสาขาใหม่ในมาเลเซียแล้ว ล่าสุด อินเด็กช์ฯ ได้เซ็นสัญญาความร่ววมือขายแฟนไชส์ให้แก่บริษัท ชูมาร์ท หรือ SM กรุ๊ป ผู้ประกอบการค้าปลีก และอสังหาฯ ท็อป 5 ในประเทศฟิลิปปีนส์ เพื่อทำตลาดในประเทศฟิลิปปีนส์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบในการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1 ปี 59 นอกจากนี้ อินเด็กช์ฯ ยังเปิดรับผู้ร่วมทุน หรือพันธมิตรรายใหม่ๆ ที่มีความพร้อมจะลงทุนขยายตลาดในประเทศเวียดนาม อินโดนีเชีย และกัมพูชาเพิ่ม

“อิออน เคยชักชวนให้อินเด็กช์ฯ เข้าไปร่วมลงทุนในประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เพราะอิออน ได้เปิดบริการใน 2 ประเทศดังกล่าวแล้ว แต่อินเด็กช์ฯ ยังต้องการศึกษาตลาดดังกล่าวอยู่ ขณะเดียวกัน ก็ยังเปิดก้วางให้กับพันธมิตรรายใหม่ๆ ในรูปแบบแฟรนไชส์เข้ามาพูดคุยถึงความเป้นไปได้ในทั้ง 2 ประเทศดังกล่าวอยู่”

น.ส.กฤษชนก กล่าวถึงแผนการขยายตลาดในประเทศว่า ในปีนี้อินเด็กช์ฯ จะใช้งงบลงทุน 1,500 ล้านบาท ในการขยายสาขาใหม่ 4 สาขา และทำตลาด โดยยังให้ความสำคัญต่อเปิดสาขาในกลุ่มจังหวัดหัวเมืองหลัก และหัวเมืองรอง โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ในภาคใต้ ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาสแรกจะเปิดให้บริการสาขาหาดใหญ่ ซึ่งใช้งบลงทุนก่อสร้าง 400 ล้านบาท เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขยายธุรกิจในทุกๆ ด้าน และยังมีกำลังซื้อจากจังหวัดใกล้เคียง และในไตรมาสที่ 2 จะเปิดสาขาสุราษฎร์ธานี โดยใช้งบก่อสร้างกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 สาขาจะสามารถตอบสนองความต้องการเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน รวมทั้งเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนสาขาที่ 3 จะเปิดในพื้นที่ภาคตะวันออก ในไตรมาสที่ 3 ส่วนสาขาที่ 4 อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดในภาคใต้ หรือ กทม.

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา อินเด็กซ์ฯ มียอดขาย 9,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 56 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการเปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ นครสวรรค์ นครราชสีมา พัทยา และมหาชัย ส่งให้ปัจจุบันอินเด็กซ์ฯ มีสาขาให้บริการแล้วทั้งสิ้น 21 สาขาทั่วประเทศ ส่วนในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 10,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 5%

สำหรับภาพรวมของตลาดเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านในปี 57 ที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในภาวะทรงตัวแม้มีปัจจัยลบจากปัญหาการเมือง และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ กระทบการลงทุนของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่พื้นที่ในกลุ่มหัวเมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยวในส่วนภูมิภาคยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี ดังนั้น อัตราการเติบโตของตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน จึงเกิดจากกำลังซื้อในส่วนภูมิภาคเป็นหลัก ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์เองก็พยายามงัดกลยุทธ์ด้านโปรโมชันเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ แต่ด้วยผู้บริโภคเองยังขาดอารมณ์ในการจับจ่ายจากสถานการณ์ทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจ ทำให้อัตราการเติบโตของตลาดรวมอยู่ในภาวะทรงตัว คาดว่ามูลค่าตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านปี 57 อยู่ที่ 80,000 ล้านบาท

นอกจากแผนงานการเปิดสาขาใหม่แล้ว กลยุทธ์ด้านสินค้าและบริการ รวมถึงแคมเปญทางการตลาดจะยังคงมีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สำหรับด้านสินค้าและบริการนั้น ในปีนี้มีแผนการเปิด Power One ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากแบรนด์ดังต่างๆ เพิ่มเติมในอินเด็กซ์ฯ สาขาใหม่ที่เกิดขึ้น โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของ Power One ไว้ที่ 15% ต่อปี รวมทั้งได้เพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม exclusive brand ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งในปีนี้จะมีสินค้าเพิ่มขึ้นมากว่า 1,000 รายการ ทั้งในกลุ่ม Home textile กลุ่ม Home Organization กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และเฟอร์นิเจอร์ประเภทมัลติฟังก์ชันที่ตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าที่มีพื้นที่จำกัด

ด้านแผนงานส่งสริมการขาย ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความหลากหลาย และมีสีสันเพื่อสร้างความแปลกใหม่ โดยในปีนี้จะเน้นการทำ localize campaign ควบคู่กับการทำ nationwide campaign เพราะพฤติกรรมการซื้อสินค้า และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ค่อนข้างมีความแตกต่าง โดยตั้งงบประมาณทำการตลาดตลอดทั้งปีรวม 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้นำกลยุทธ์ Synergistic Strategy มาวางแผนด้านการทำการตลาดโดยการนำแบรนด์ต่างๆ ในเครือมาทำโปรโมชันร่วมกันเพื่อเพิ่มยอดขายซึ่งกันและกัน เช่น ซื้อเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ Index Furniture สามารถรับสิทธิพิเศษซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Power One เป็นต้น รวมทั้งการทำกิจกรรมกับสมาชิกบัตร Joy Card เพื่อสร้าง loyalty program แก่ลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ ได้จัดแคมเปญต่อเนื่องในช่วงเทศกาลต่างๆ ตั้งแต่ปีใหม่ วาเลนไทน์ และตรุษจีน ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซันของการขาย รวมทั้งแคมเปญพิเศษเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 12 ปี อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ อีกด้วย คาดว่าในไตรมาสแรกจะสามารถทำยอดขายได้กว่า 2,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น