ASTV ผู้จัดการรายวัน- ปปง.แถลงผลการตรวจยึดอายัดทรัพย์"พงศ์พัฒน์"และเครือข่ายเพิ่มอีก 111 รายการ มูลค่ากว่า100ล้าน พบมีส่วนเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนในบริษัท ศิรินทิพย์ 2007 จำกัด แอบอ้างเบื้องสูง ประมูลเครื่องเสวยให้กับวังอัมพรและวังศุโขทัย จ่ออายัดทรัพย์สินอีก 2 หมื่นรายการ โฆษกสตช. ยันโยกตร.ก๊วน"พงศ์พัฒน์" ออกนอกหน่วยทั้งหมด ยอมรับ"รองเต่า-ทรงพล" มีการเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน "สมยศ"ระบุไม่มีการกลั่นแกล้ง
วานนี้(16 ธ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เมื่อเวลา 14.00น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงผลการอายัดทรัพย์สินของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กับพวก เพิ่มเติมจำนวน111รายการ มูลค่าประมาณ 100ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ภายหลังที่ปปง.ดำเนินการตรวจสอบอายัดทรัพย์สินเบื้องต้นจำนวน104รายการ(ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) มูลค่ากว่า400ล้าน ของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ที่มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ธุรกิจผิดกฎหมาย เปิดบ่อนการพนัน และมีความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เมื่อวันที่9ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ปปง.ได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารต่างๆของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ที่น่าเชื่อว่าได้มาในระหว่างกระทำความผิดรวม107รายการ ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จำนวน3บัญชี มูลค่า70,085 บาท และเงินในบัญชีของผู้เกี่ยวข้องอีก8ราย รวม104บัญชี มูลค่ากว่า 37,931,379บาท คือ1พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ จำนวน7บัญชี มูลค่า3,187,475บาท 2.พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิมรัตน์ จำนวน15บัญชี มูลค่ารวม2,404,798บาท 3.พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ จำนวน2บัญชี มูลค่า53,982บาท 4.นายทรงพล ทองสิน จำนวน53บัญชี มูลค่า 3,096,777บาท 5.ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา จำนวน8บัญชี มูลค่า500,513บาท 6.ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง จำนวน2บัญชี มูลค่า 10,828บาท และ7น.ส.ชื่นกมล รุ่งพีรพงศ์ จำนวน16บัญชี มูลค่า 28,655,506บาท
นอกจากนี้ ปปง.พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ น.ส.ปณิดา อัครพงศ์ปรีชา ซึ่งมีหุ้นส่วนในบริษัท ศิรินทิพย์ 2007 จำกัด โดยบริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์แอบอ้างเบื้องสูงในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ หลอกลวงประมูลเครื่องเสวยให้กับวังอัมพรและวังศุโขทัย ทั้งนี้ น.ส.ปณิดา ยังมีพฤติการณ์ในการลักลอบนำซากสัตว์สงวนเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการค้า โดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของน.ส.ปณิดา ปปง.ได้อายัดบัญชีเงินฝากที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดทั้งหมด4 รายการ รวมเป็นเงิน 61,644,020บาท
เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ผู้ซึ่งถูกอายัดทรัพย์สินดังกล่าวหรือผู้เกี่ยวข้อง สามารถยื่นคำร้องและนำหลักฐานมาชี้แจงที่มาของทรัพย์ที่ถูกอายัด มิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดได้ภายใน30วัน นับตั้งแต่วันที่รับแจ้ง สำหรับกรณีนี้ผู้ต้องหาหรือผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์นั้นถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำ ทางปปง.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบที่มาของทรัพย์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในการอายัดทรัพย์ทั้ง 111 รายการนี้ เป็นเพียงทรัพย์สินชุดที่ 2 ที่ทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งปัจจุบัน ปปง.ได้อายัดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดนี้ไปแล้ว 215 รายการ มูลค่ารวมกว่า500ล้าน ยังคงเหลือทรัพย์สินอีกกว่า 2 หมื่นรายการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและเตรียมอายัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปิยพรรณ ชินนะประภา 1ในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เคยโอนเงินไปประเทศอังกฤษ ปลายทางเป็นสถานศึกษา จำนวน16ครั้ง มูลค่ากว่า5.2ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ เลขาธิการ ปปง.ระบุว่า เงินดังกล่าวน่าจะโอนเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการโยกย้าย ถ่ายเทเงินไปต่างประเทศ
***ผบ.ตร.ยันโยกบช.ก.เป็นไปตามวาระ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กระแสข่าวแต่งตั้งโยกย้ายล้างบางนายตำรวจภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) กว่า 200 นาย นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจำนวนเกี่ยวกับตัวเลขดังกล่าวเลย ตนทราบเพียงว่าการโยกย้ายต่างๆ นั้นเป็นไปตามวาระเท่านั้น เมื่อครบกำหนดก็ต้องมีการโยกย้ายเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการโยกย้ายทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับ ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใดๆ
****ล่า"รองเต่า-ทรงพล"กบดานไทย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการโยกย้ายล้างบางนายตำรวจภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) กว่า 200 นาย ว่าถือป็นเรื่องปกติของการย้ายประจำปีของในทุกกองบัญชาการ โดยเฉพาะหน่วยกำลังทั้งนครบาลและภูธร จะมีการโยกย้ายเข้า-ออก สลับกันพอสมควรอยู่แล้ว เนื่องจากว่าบางคนอาจครบกำหนดวาระในการปฎิบัติหน้าที่จึงต้องหมุนเวียนหน่วยงานกันไป รวมถึงบางคนก็ขอย้ายกลับไปยังภูมิลำเนาเดิม ซึ่งเป็นการย้ายข้ามกองบัญชาการ โดยการโยกย้ายของบช.ก. ที่มีจำนวนมากในช่วงปีนี้เพราะมีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอยู่ในขบวนการของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. เพราะฉะนั้นก็อาจจะมีจำนวนมากกว่าปกติ แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องมีมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงปฎิบัติหน้าที่กันตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับนายตำรวจผู้ที่คาดว่าจะถูกโยกย้ายออกนอกหน่วยใน 10 เปอร์เซ็นต์ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตผบช.ก.โดยตรงใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า นายตำรวจใน 10 เปอร์เซ็นต์ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกันอาจจะเป็นลักษณะการมีข้อมูลว่ารู้เห็น หรืออาจมีข้อมูลว่าอยู่ในกลุ่ม แต่ว่าหลักฐานทางคดีไปไม่ถึง มีเพียงข้อมูลที่สามารถดำเนินการทางปกครองได้ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นดำเนินการทางวินัยร้ายแรงหรือทางคดีได้
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั้น เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. มีหมายจับเพิ่ม 2 คน คือ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รองผกก.6 บก.ป. ซึ่งเป็นตำรวจมือสืบสวนคนสนิทของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และนายทรงพล ทองสิน คนขับรถของ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผบช.ก. ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม คาดว่ายังกบดานอยู่ภายในประเทศไทย ในส่วนของจเรตำรวจที่เรียกสอบเรื่องวินัย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ขณะนี้ได้ผลสรุปแล้วเหลือเพียงรอการเสนอเรื่องขึ้นมาเท่านั้น
ส่วนกรณี พ.ต.อ.เด่นชัย บุตรโพธิ์ศรี นักบิน (สบ 5) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ที่มีการปลอมคำสั่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เป็นชุดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ด้านการปราบปรามอบายมุข การค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว เข้าตรวจสถานบริการย่านรัชดาภิเษกนั้น โฆษกตร. กล่าวว่า ขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กำลังติดต่ออยู่ แต่ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัว ส่วนการตรวจสอบยังตรวจสอบไม่พบว่ามีประวัติการกระทำแบบนี้อีกหรือไม่ เท่าที่พบการกระทำแบบนี้มีเพียงครั้งเดียว คือครั้งนี้เท่านั้น
วานนี้(16 ธ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เมื่อเวลา 14.00น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงผลการอายัดทรัพย์สินของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กับพวก เพิ่มเติมจำนวน111รายการ มูลค่าประมาณ 100ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ภายหลังที่ปปง.ดำเนินการตรวจสอบอายัดทรัพย์สินเบื้องต้นจำนวน104รายการ(ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) มูลค่ากว่า400ล้าน ของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ที่มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ธุรกิจผิดกฎหมาย เปิดบ่อนการพนัน และมีความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เมื่อวันที่9ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ปปง.ได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารต่างๆของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ที่น่าเชื่อว่าได้มาในระหว่างกระทำความผิดรวม107รายการ ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จำนวน3บัญชี มูลค่า70,085 บาท และเงินในบัญชีของผู้เกี่ยวข้องอีก8ราย รวม104บัญชี มูลค่ากว่า 37,931,379บาท คือ1พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ จำนวน7บัญชี มูลค่า3,187,475บาท 2.พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิมรัตน์ จำนวน15บัญชี มูลค่ารวม2,404,798บาท 3.พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ จำนวน2บัญชี มูลค่า53,982บาท 4.นายทรงพล ทองสิน จำนวน53บัญชี มูลค่า 3,096,777บาท 5.ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา จำนวน8บัญชี มูลค่า500,513บาท 6.ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง จำนวน2บัญชี มูลค่า 10,828บาท และ7น.ส.ชื่นกมล รุ่งพีรพงศ์ จำนวน16บัญชี มูลค่า 28,655,506บาท
นอกจากนี้ ปปง.พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ น.ส.ปณิดา อัครพงศ์ปรีชา ซึ่งมีหุ้นส่วนในบริษัท ศิรินทิพย์ 2007 จำกัด โดยบริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์แอบอ้างเบื้องสูงในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ หลอกลวงประมูลเครื่องเสวยให้กับวังอัมพรและวังศุโขทัย ทั้งนี้ น.ส.ปณิดา ยังมีพฤติการณ์ในการลักลอบนำซากสัตว์สงวนเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการค้า โดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของน.ส.ปณิดา ปปง.ได้อายัดบัญชีเงินฝากที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดทั้งหมด4 รายการ รวมเป็นเงิน 61,644,020บาท
เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ผู้ซึ่งถูกอายัดทรัพย์สินดังกล่าวหรือผู้เกี่ยวข้อง สามารถยื่นคำร้องและนำหลักฐานมาชี้แจงที่มาของทรัพย์ที่ถูกอายัด มิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดได้ภายใน30วัน นับตั้งแต่วันที่รับแจ้ง สำหรับกรณีนี้ผู้ต้องหาหรือผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์นั้นถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำ ทางปปง.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบที่มาของทรัพย์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในการอายัดทรัพย์ทั้ง 111 รายการนี้ เป็นเพียงทรัพย์สินชุดที่ 2 ที่ทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งปัจจุบัน ปปง.ได้อายัดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดนี้ไปแล้ว 215 รายการ มูลค่ารวมกว่า500ล้าน ยังคงเหลือทรัพย์สินอีกกว่า 2 หมื่นรายการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและเตรียมอายัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปิยพรรณ ชินนะประภา 1ในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เคยโอนเงินไปประเทศอังกฤษ ปลายทางเป็นสถานศึกษา จำนวน16ครั้ง มูลค่ากว่า5.2ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ เลขาธิการ ปปง.ระบุว่า เงินดังกล่าวน่าจะโอนเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการโยกย้าย ถ่ายเทเงินไปต่างประเทศ
***ผบ.ตร.ยันโยกบช.ก.เป็นไปตามวาระ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กระแสข่าวแต่งตั้งโยกย้ายล้างบางนายตำรวจภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) กว่า 200 นาย นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจำนวนเกี่ยวกับตัวเลขดังกล่าวเลย ตนทราบเพียงว่าการโยกย้ายต่างๆ นั้นเป็นไปตามวาระเท่านั้น เมื่อครบกำหนดก็ต้องมีการโยกย้ายเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการโยกย้ายทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับ ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใดๆ
****ล่า"รองเต่า-ทรงพล"กบดานไทย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการโยกย้ายล้างบางนายตำรวจภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) กว่า 200 นาย ว่าถือป็นเรื่องปกติของการย้ายประจำปีของในทุกกองบัญชาการ โดยเฉพาะหน่วยกำลังทั้งนครบาลและภูธร จะมีการโยกย้ายเข้า-ออก สลับกันพอสมควรอยู่แล้ว เนื่องจากว่าบางคนอาจครบกำหนดวาระในการปฎิบัติหน้าที่จึงต้องหมุนเวียนหน่วยงานกันไป รวมถึงบางคนก็ขอย้ายกลับไปยังภูมิลำเนาเดิม ซึ่งเป็นการย้ายข้ามกองบัญชาการ โดยการโยกย้ายของบช.ก. ที่มีจำนวนมากในช่วงปีนี้เพราะมีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอยู่ในขบวนการของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. เพราะฉะนั้นก็อาจจะมีจำนวนมากกว่าปกติ แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องมีมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงปฎิบัติหน้าที่กันตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับนายตำรวจผู้ที่คาดว่าจะถูกโยกย้ายออกนอกหน่วยใน 10 เปอร์เซ็นต์ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตผบช.ก.โดยตรงใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า นายตำรวจใน 10 เปอร์เซ็นต์ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกันอาจจะเป็นลักษณะการมีข้อมูลว่ารู้เห็น หรืออาจมีข้อมูลว่าอยู่ในกลุ่ม แต่ว่าหลักฐานทางคดีไปไม่ถึง มีเพียงข้อมูลที่สามารถดำเนินการทางปกครองได้ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นดำเนินการทางวินัยร้ายแรงหรือทางคดีได้
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั้น เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. มีหมายจับเพิ่ม 2 คน คือ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รองผกก.6 บก.ป. ซึ่งเป็นตำรวจมือสืบสวนคนสนิทของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และนายทรงพล ทองสิน คนขับรถของ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผบช.ก. ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม คาดว่ายังกบดานอยู่ภายในประเทศไทย ในส่วนของจเรตำรวจที่เรียกสอบเรื่องวินัย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ขณะนี้ได้ผลสรุปแล้วเหลือเพียงรอการเสนอเรื่องขึ้นมาเท่านั้น
ส่วนกรณี พ.ต.อ.เด่นชัย บุตรโพธิ์ศรี นักบิน (สบ 5) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ที่มีการปลอมคำสั่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เป็นชุดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ด้านการปราบปรามอบายมุข การค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว เข้าตรวจสถานบริการย่านรัชดาภิเษกนั้น โฆษกตร. กล่าวว่า ขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กำลังติดต่ออยู่ แต่ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัว ส่วนการตรวจสอบยังตรวจสอบไม่พบว่ามีประวัติการกระทำแบบนี้อีกหรือไม่ เท่าที่พบการกระทำแบบนี้มีเพียงครั้งเดียว คือครั้งนี้เท่านั้น