“ธปท.” เชื่อการตัดสิทธิ “จีเอสพี” สินค้าไทยไม่มีผลต่อการส่งออกมากนัก

“ธปท.” คาดผลกระทบ “อียู” ตัดสิทธิ “จีเอสพี” ประเทศไทยน่าจะเห็นชัดเจนไตรมาสแรกปีนี้ เชื่อไม่มีผลต่อการส่งออกมากนัก เพราะสินค้าที่ใช้สิทธิดังกล่าวมีเพียงแค่ 4% เท่านั้น

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คาดการณ์การขยายตัวมูลค่าการส่งออกไทยของ ธปท.ที่ร้อยละ 1 ในปีนี้นั้น รวมปัจจัยเรื่องสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่เป็นข่าวมานานพอสมควรไว้แล้ว โดยสินค้าส่งออกภายใต้สิทธิจีเอสพีถูกตัดสิทธิทั้งหมดวันที่ 1 มกราคม 2558 จึงน่าจะเริ่มเห็นผลกระทบตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2558

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อการส่งออกไทยน่าจะมีขนาดไม่มาก เนื่องจากสัดส่วนสินค้าส่งออกภายใต้สิทธิจีเอสพีไปสหภาพยุโรป (อียู) มีเพียงร้อยละ 4 ของการส่งออกรวมของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เสียภาษีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2-6 (ยกเว้น สับปะรดกระป๋อง อาหารทะเลแปรรูป ที่เสียภาษีเพิ่มขึ้นมาก) อีกทั้งสินค้าบางส่วนยุโรปยังจำเป็นต้องนำเข้าจากไทย เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในรุ่นที่ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต

นายจิรเทพ กล่าวว่า ภาพรวมด้านการแข่งขันของไทยอาจค่อนข้างเสียเปรียบประเทศคู่แข่งที่ยังได้รับสิทธิจีเอสพี คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย ขณะที่ประเทศคู่แข่งที่โดนตัดสิทธิจีเอสพีไปแล้ว เช่น มาเลเซีย และบราซิล สามารถใช้ประโยชน์ผ่านช่องทางเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ซึ่งไทยยังไม่บรรลุข้อตกลงเอฟทีเอกับยุโรป