“ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง” ตั้งคณะกรรมการบริหารใหม่ 3 ท่าน หลังบริษัทปรับแผนธุรกิจใหม่แทนการฟื้นฟูกิจการ ด้วยการออกหุ้นใหม่ขายผู้ถือหุ้นเดิม นำเงินไปชำระหนี้ลดภาระ และเร่งบริหารงาน ลดต้นทุนเพื่อให้ส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์ และการดำเนินงานมีกำไร คาดเสร็จ ก.พ.58
นายธนา เอื้อวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) หรือ STHAI แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 18/2557 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 57 ว่า บอร์ดได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 58 เป็นต้นไป ซึ่งคณะกรรมการบริหาร มีจำนวน 3 ท่าน ประกอบด้วย นายศุภชัย สุกาญจนาภรณ์ กรรมการ (ประธานคณะกรรมการบริหาร) นายสุวรรณ ดำเนินทอง กรรมการบริหาร และนายทรงศักดิ์ ไวยรัชพานิช กรรมการบริหาร สำหรับคณะกรรมการของบริษัท และผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท คือ นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ หรือนายสุวรรณ ดำเนินทอง หรือนายศุภชัย สุกาญจนาภรณ์ กรรมการ 2 คน ลงลายมือชื่อร่วมกัน และประทับตราสำคัญของบริษัท
นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 57 และที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ ได้มีมติอนุมัติแผนเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจนั้น ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติให้คณะกรรมการบริหารไปดำเนินการจัดทำแผนอย่างละเอียด และนำส่งให้แก่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 30 มกราคม 58
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้คณะกรรมการบริษัทกำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 58 เพื่อให้สอดคล้องต่อภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินงานตามแผนพัฒนาศักยภาพของบริษัท โดยให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณากำหนดวงเงินค่าตอบแทนนั้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจะกำหนดวงเงินค่าตอบแทนกรรมการตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติไว้
ทั้งนี้ คณะกรรมการมีความเห็นว่า กรรมการบริษัทมีภารกิจ และความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น และเพื่อให้การปรับโครงสร้างของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้แผนเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจเป็นไปตามแผนงาน และตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องประเมิน และติดตามผลงานที่ฝ่ายจัดการปฏิบัติอย่างเข้มข้น และสมํ่าเสมอ
โดยเมื่้อวันที่ 22 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา STHAI ได้แจ้งประกาศยกเลิกแผนปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมแจ้งว่าจะเร่งเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าศูนย์ รวมทั้งปรับโครงสร้างการถือหุ้นใหม่ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินการในเรื่องอื่นๆ เช่น การเพิ่มทุนจดทะเบียน การวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน การปรับแผนการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริหารสต๊อกสินค้า รวมทั้งการขยายกลุ่มลูกค้า และตลาดใหม่ๆ นั้นบริษัทก็ยังคงดำเนินการตามแผนงานเดิมที่ได้เคยแจ้งไว้แล้ว
ทั้งนี้ เบื้องต้นบริษัทจะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 2,996,720,238 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering : RO) อัตราส่วน 1 ต่อ 3 พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายที่ราคาหุ้นละ 0.10 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งนำไปชำระหนี้ลดภาระ คาดแล้วเสร็จใน ก.พ.58 พร้อมเพิ่มสภาพคล่องของบริษัท และจะปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีกำไร คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยเร่งให้การดำเนินงานมีกำไรไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ด้วยการบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนการผลิต บริหารจัดการทรัพย์สินเพื่อก่อให้เกิดรายได้ ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด
นายธนา เอื้อวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) หรือ STHAI แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 18/2557 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 57 ว่า บอร์ดได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 58 เป็นต้นไป ซึ่งคณะกรรมการบริหาร มีจำนวน 3 ท่าน ประกอบด้วย นายศุภชัย สุกาญจนาภรณ์ กรรมการ (ประธานคณะกรรมการบริหาร) นายสุวรรณ ดำเนินทอง กรรมการบริหาร และนายทรงศักดิ์ ไวยรัชพานิช กรรมการบริหาร สำหรับคณะกรรมการของบริษัท และผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท คือ นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ หรือนายสุวรรณ ดำเนินทอง หรือนายศุภชัย สุกาญจนาภรณ์ กรรมการ 2 คน ลงลายมือชื่อร่วมกัน และประทับตราสำคัญของบริษัท
นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 57 และที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ ได้มีมติอนุมัติแผนเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจนั้น ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติให้คณะกรรมการบริหารไปดำเนินการจัดทำแผนอย่างละเอียด และนำส่งให้แก่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 30 มกราคม 58
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้คณะกรรมการบริษัทกำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 58 เพื่อให้สอดคล้องต่อภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินงานตามแผนพัฒนาศักยภาพของบริษัท โดยให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณากำหนดวงเงินค่าตอบแทนนั้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจะกำหนดวงเงินค่าตอบแทนกรรมการตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติไว้
ทั้งนี้ คณะกรรมการมีความเห็นว่า กรรมการบริษัทมีภารกิจ และความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น และเพื่อให้การปรับโครงสร้างของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้แผนเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจเป็นไปตามแผนงาน และตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องประเมิน และติดตามผลงานที่ฝ่ายจัดการปฏิบัติอย่างเข้มข้น และสมํ่าเสมอ
โดยเมื่้อวันที่ 22 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา STHAI ได้แจ้งประกาศยกเลิกแผนปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมแจ้งว่าจะเร่งเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าศูนย์ รวมทั้งปรับโครงสร้างการถือหุ้นใหม่ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินการในเรื่องอื่นๆ เช่น การเพิ่มทุนจดทะเบียน การวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน การปรับแผนการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริหารสต๊อกสินค้า รวมทั้งการขยายกลุ่มลูกค้า และตลาดใหม่ๆ นั้นบริษัทก็ยังคงดำเนินการตามแผนงานเดิมที่ได้เคยแจ้งไว้แล้ว
ทั้งนี้ เบื้องต้นบริษัทจะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 2,996,720,238 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering : RO) อัตราส่วน 1 ต่อ 3 พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายที่ราคาหุ้นละ 0.10 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งนำไปชำระหนี้ลดภาระ คาดแล้วเสร็จใน ก.พ.58 พร้อมเพิ่มสภาพคล่องของบริษัท และจะปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีกำไร คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยเร่งให้การดำเนินงานมีกำไรไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ด้วยการบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนการผลิต บริหารจัดการทรัพย์สินเพื่อก่อให้เกิดรายได้ ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด
