นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ หรือ NDR เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. อยู่ระหว่าการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูล หรือไฟลิ่งของ NDR เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 65 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 30.23% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยคาดว่าจะสามารถเปิดขายหุ้นและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ราวปลายปีนี้ถึงต้นปี 58
บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยางรถจักรยานยนต์มากกว่า 20 ปี โดยบริษัทเริ่มก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 รวมถึงบริษัทเน้นคุณภาพของสินค้าเพื่อความปลอดภัยสูงของผู้บริโภค จุดขายอยู่ที่ความแตกต่างด้านความทนทานของผลิตภัณฑ์ และผู้บริหารยังมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล พร้อมที่จะนำองค์กรเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินที่บริษัทได้กู้ยืมมาเพื่อขยายกิจการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จำนวน 300 ล้านบาท ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง โดยปัจจุบันบริษัทมีรายจ่ายดอกเบี้ยปีละราว 7 ล้านบาท และเงินส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
เมื่อชำระคืนเงินกู้บางส่วนจะทำให้บริษัทสามารถนำเงินสดในการดำเนินงานไปขยายธุรกิจให้เติบโตไปได้อีกมากในอนาคต ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กว้างขึ้น โดยปัจจุบัน มีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 50% และในประเทศ 50% ซึ่งในปี 58 บริษัทคาดสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเตรียมขยายธุรกิจไปอินเดีย จากที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้วในมาเลเซีย พม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชา
สำหรับผลประกอบการในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 820 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายจากทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศสูงขึ้น 25% ในปี 59 และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 8% ด้วยการมุ่งเน้นรักษาคุณภาพสินค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาด และสามารถแข่งขันในตลาดได้ในระยะยาว รวมทั้งนำไปเป็นจุดขายในการแข่งขันกับคู่แข่งทางด้านราคา และความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ได้ นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นกระบวนการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม