“ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” มั่นใจหุ้น NDR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 15 มกราคมนี้ นักลงทุนให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม เหตุปัจจัยพื้นฐานแกร่ง เติบโตตามอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ เผยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมใจเอาหุ้นเข้า Lock-up Period เพื่อแสดงความจริงใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ติดอันดับ TOP3 ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศ ด้าน “วิชา โตมานะ” ที่ปรึกษาทางการเงิน และอันเดอร์ไรต์มือเก๋าระบุกระแสความต้องการได้รับการตอบรับที่ดีในช่วงเปิดขายไอพีโอ รวมทั้งการกำหนดราคาไอพีโอเหมาะสม เทียบเป็นค่าพีอีเรโชเพียง 11 เท่า เชื่อหุ้น NDR จะได้รับการตอบรับที่ดี และสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุนได้
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า มีความเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้น NDR ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 15 มกราคม 2558 นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน หลังจากกระแสตอบรับในช่วงเปิดขายหุ้นไอพีโอระหว่างวันที่ 7-9 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นแนวโน้มในอนาคตธุรกิจของ NDR ที่เติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ และแผนการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการเป็นผู้ผลิตของอุตสาหกรรมผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศ โดยมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของสินค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า พัฒนาสินค้าให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ในระยะยาว พร้อมสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ได้ โดยวางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศภายใน 3 ปี (2560)
“ขอให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นใน NDR ว่า คณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีแผนการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน และขอให้นักลงทุนทุกท่านสบายใจ และมั่นใจได้ เพราะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เต็มใจนำหุ้นที่เหลือเข้า Lock-up Period ทั้งหมด 100% นอกเหนือจากหุ้นที่เข้าเกณฑ์จะต้องติดไซเรนต์ พีเรียดอยู่แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่าเราพร้อมจะยืนหยัดอยู่กับ เอ็น.ดี.รับเบอร์ ตลอดไป” นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ NDR เปิดเผยว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 65 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท ถือเป็นราคาที่เหมาะสมต่อปัจจัยพื้นฐาน โดยมีค่าพีอีเรโชเพียง 11 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่าพีอีเรโชของตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งคาดว่าหลังการเข้าเทรดจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน เนื่องจาก NDR เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยางรถจักรยานยนต์ยาวนานมากว่า 20 ปี ขณะที่ทีมผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล โดยมีแผนการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายรายได้ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง
“มั่นใจว่าหุ้น NDR จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง ซึ่งมีลูกค้าหลักประเภท OEM ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 รายทั่วประเทศ และรับจ้างผลิตในประเทศให้แก่บริษัทชั้นนำในประเทศไทย เช่น YAMAHA เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ขณะที่มีการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายวิชา กล่าว