ผลิตไฟฟ้าลาว ออกหุ้นสกุลบาทไทย 6.5 พันล้านบาท แบ่งขาย 3 ชุด อัตราดอกเบี้ยต่าง เสนอขาย PP ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นลาว 11 ม.ค.58 เพื่นนำเงินไปใช้ซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มกำลังการผลิตตามแผน
นายบุญอุ้ม สีวันเพ็ง ผู้อำนวยการบริษัท ผลิตไฟฟ้าลาว จำกัด หรือ EDL-GEN ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเอกชนรายใหญ่ในประเทศลาว กล่าวว่า มีแผนออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทในไทย มูลค่าราว 6.5 พันล้านบาท โดยจะแบ่งเป็น 3 ชุด ซึ่งชุดแรก 1.5 พันล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.95% ชุดที่ 2 วงเงิน 2 พันล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.20% และชุดที่ 3 วงเงิน 3 พันล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.45% เพื่อเสนอขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นลาว วันที่ 11 ม.ค.58
โดยบริษัทระดมทุนไปใช้ในการซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มตามแผนการขยายกำลังการผลิต ขณะนี้บริษัทถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 7 แห่ง กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 387 เมกะวัตต์ คือ Nam Ngum 1 กำลังการผลิต 155 เมกะวัตต์, Nam Mang 3 กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์, Nam Leuk กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์, Selabem กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์, Xexet 1 กำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์, Xexet 2 กำลังการผลิต 76 เมกะวัตต์, Nam Song กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จะทำให้บริษัทถือหุ้นโครงการ IPP จำนวน 4 แห่ง คือ Theun Hinboun ถือหุ้น 60% กำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์, Nam Ngum 2 ถือหุ้น 25% กำลังการผลิต 154 เมกะวัตต์, Houay Ho ถือหุ้น 20% กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และ Nam Lik 1-2 ถือหุ้น 10% กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 494 เมกะวัตต์
“การระดมทุนในไทยครั้งนี้จะสนับสนุนศักยภาพของบริษัทในการพัฒนาแหล่งผลิต เพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานไฟฟ้าในลาวซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ทั้งนี้ บริษัทอาจพิจารณาการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในรูปแบบอื่นที่เหมาะสมในอนาคตด้วย”
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้วางนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางด้านการลงทุนและการระดมทุนให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งความสำเร็จของการออกตราสารหนี้สกุลเงินบาทของ EDL-GEN จะเป็นตัวอย่างให้ภาครัฐ และเอกชนอื่นในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง (CLMV) ให้ความสนใจระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ของไทยในอนาคต และสามารถสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจร่วมกันในภูมิภาค (Inclusive Growth)
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การออกบาทบอนด์ของต่างประเทศในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่จะทำให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค โดยเปิดให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามาระดมทุนเสนอขายหลักทรัพย์ และจดทะเบียนในตลาดทุนไทยได้สะดวก และสร้างกฎเกณฑ์ให้เครื่องมือระดมทุนของไทย
นายบุญอุ้ม สีวันเพ็ง ผู้อำนวยการบริษัท ผลิตไฟฟ้าลาว จำกัด หรือ EDL-GEN ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเอกชนรายใหญ่ในประเทศลาว กล่าวว่า มีแผนออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทในไทย มูลค่าราว 6.5 พันล้านบาท โดยจะแบ่งเป็น 3 ชุด ซึ่งชุดแรก 1.5 พันล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.95% ชุดที่ 2 วงเงิน 2 พันล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.20% และชุดที่ 3 วงเงิน 3 พันล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.45% เพื่อเสนอขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นลาว วันที่ 11 ม.ค.58
โดยบริษัทระดมทุนไปใช้ในการซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มตามแผนการขยายกำลังการผลิต ขณะนี้บริษัทถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 7 แห่ง กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 387 เมกะวัตต์ คือ Nam Ngum 1 กำลังการผลิต 155 เมกะวัตต์, Nam Mang 3 กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์, Nam Leuk กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์, Selabem กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์, Xexet 1 กำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์, Xexet 2 กำลังการผลิต 76 เมกะวัตต์, Nam Song กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จะทำให้บริษัทถือหุ้นโครงการ IPP จำนวน 4 แห่ง คือ Theun Hinboun ถือหุ้น 60% กำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์, Nam Ngum 2 ถือหุ้น 25% กำลังการผลิต 154 เมกะวัตต์, Houay Ho ถือหุ้น 20% กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และ Nam Lik 1-2 ถือหุ้น 10% กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 494 เมกะวัตต์
“การระดมทุนในไทยครั้งนี้จะสนับสนุนศักยภาพของบริษัทในการพัฒนาแหล่งผลิต เพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานไฟฟ้าในลาวซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ทั้งนี้ บริษัทอาจพิจารณาการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในรูปแบบอื่นที่เหมาะสมในอนาคตด้วย”
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้วางนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางด้านการลงทุนและการระดมทุนให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งความสำเร็จของการออกตราสารหนี้สกุลเงินบาทของ EDL-GEN จะเป็นตัวอย่างให้ภาครัฐ และเอกชนอื่นในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง (CLMV) ให้ความสนใจระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ของไทยในอนาคต และสามารถสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจร่วมกันในภูมิภาค (Inclusive Growth)
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การออกบาทบอนด์ของต่างประเทศในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่จะทำให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค โดยเปิดให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามาระดมทุนเสนอขายหลักทรัพย์ และจดทะเบียนในตลาดทุนไทยได้สะดวก และสร้างกฎเกณฑ์ให้เครื่องมือระดมทุนของไทย