ตลาดบอนด์ไทยยังมีเงินต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่เอกชนออกบอนด์จำนวนทำลายสถิติกว่า 5 แสนล้าน ThaiBMA คาดดอกเบี้ยไทยปรับขึ้นอย่างเร็วต้นปีหน้า ขณะที่สหรัฐฯ ยังไม่เร่งปรับขึ้นเพราะ ศก.ประเทศหลักยังชะลอ
นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 มียอดคงค้างของตลาดตราสารหนี้อยู่ที่ 9.19 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.99 ล้านล้านบาท
โดยมูลค่าการซื้อขายในตลาดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณวันละ 79,000 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยตามการซื้อขายพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยที่ลดลง และพบว่ากลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยังเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ที่สูงสุดประมาณ 60% เมื่อเทียบกับนักลงทุนอื่น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนการซื้อขายสูงเป็นอันดับที่ 2 ประมาณ 14% ซึ่งการซื้อขายของนักลงทุนทุกกลุ่มรวมกันประมาณ 10 ล้านล้านบาท และในช่วง 9 เดือนแรกเงินลงทุนต่างชาติไหลออกประมาณ 5,400 ล้านบาท เป็นเงินที่ไหลออกไปในพันธบัตรระยะยาว
ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาปรับลดลงทั้งในตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาว โดยตราสารหนี้ระยะสั้นอายุน้อยกว่า 1 ปี ปรับลดลงประมาณ 30 เบสิสพอยต์ ส่วนตราสารหนี้ระยะยาวอายุมากกว่า 1 ปี ปรับลดลง 40-50 เบสิสพอยต์ ตามทิศทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังไม่ชัดเจน กลุ่มยูโรโซนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ รวมถึงญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบเรื่องภาษีการค้า และเศรษฐกิจจีนที่เติบโตลดลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินลงทุนต่างชาติยังไหลกลับเข้ามาในตลาดบอนด์ไทย และเป็นการถือครองนานขึ้นเฉลี่ยประมาณ 6 ปี และในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้เงินต่างชาติก็ยังจะเข้ามาต่อเนื่องโดยเฉพาะในตราสารหนี้ระยะยาว
ด้านตราสารหนี้ภาคเอกชนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนจำนวน 485,557 ล้านบาท มากกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 418,458 ล้านบาท และจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้คาดว่าจะมีหุ้นกู้ออกอีกประมาณ 25,000 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขการออกหุ้นกู้เอกชนช่วง 10 เดือนแรกของปี 2557 มีไม่ต่ำกว่า 510,000 ล้านบาท สูงกว่าสถิติการออกหุ้นกู้ในปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 509,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ พบว่าในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมามีเอกชนออกหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในตราสารระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเป็นเอกชนรายใหม่ที่ออกหุ้นกู้ครั้งแรก (Newcomer) สูงถึง 40 บริษัท และ 16 บริษัทตามลำดับ และมีแนวโน้มที่เอกชนจะออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ดอกเบี้ยในประเทศที่ไม่น่าปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเร็วๆ นี้ เอกชนจำนวนมากยังไม่เคยระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้และเริ่มมีการออกมากขึ้น และจากเกณฑ์ Basel lll ที่ทำให้แบงก์พาณิชย์ออกหุ้นกู้ Basel lll Born ในช่วงจากนี้ไป
**คาดขึ้น ดบ.อย่างเร็ว Q1/58**
นายธาดา กล่าวถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทยว่า เนื่องจากภาคการส่งออกที่ยังชะลอตัว การท่องเที่ยวที่ยังไม่โตเต็มที่ การบริโภคของครัวเรือนที่ยังต่ำ และการผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่ยังต่ำ ดังนั้น ปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อยังไม่มี อัตราดอกเบี้ยของไทยจะอยู่ในระดับปัจจุบันถึงสิ้นปีนี้และอาจจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างเร็วในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า และอย่างช้าคือในช่วงไตรมาสที่ 2 แต่เศรษฐกิจไทยที่ยังไม่โตขณะนี้ก็ไม่น่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันมองว่า สหรัฐฯ น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอย่างช้าๆ แม้จะหยุดทำ QE แล้วก็ตาม เพราะเศรษฐกิจของประเทศอื่นก็ยังไม่ฟื้นตัว ท้้งยุโรป ญี่ปุ่น จีน