ที่ประชุมเสนอร่วม กนง.และ กนส.เผยการขยายสินเชื่อ และเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังยังน่าพอใจ แต่ยอมรับยังมีความเสี่ยงจากนักลงทุนที่มีการเก็งกำไรในสินทรัพย์ และหนี้ภาคครัวเรือนที่ก่อตัวก่อนหน้า แนะให้ความสำคัญต่อวินัยทางการเงิน ควบคู่กับการพัฒนากลไกตลาดด้วยการขยายสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิต
ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) มีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กับคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ครั้งที่ 2/2557 โดยมีประเด็นสำคัญตามที่แถลงผ่านเว็บไซต์ ธปท. โดยที่ประชุมเห็นว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีแม้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ และระบบธนาคารพาณิชย์มีผลการดำเนินงานดี จึงยังสามารถขยายสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่อัตราการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนชะลอลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ด้อยลงบ้างตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะสินเชื่ออุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดใหญ่บางรายมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายกิจการ และรักษาต้นทุนทางการเงินในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงอาจทำให้อ่อนไหวต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากขึ้น
ที่ประชุมเห็นว่า ยังมีความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามในระยะต่อไป คือ (1) ความเข้มแข็งของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย (2) พฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for yield) รวมถึงการเก็งกำไรในสินทรัพย์ ซึ่งหากมีการประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไปจะก่อให้เกิดความเปราะบางทางการเงิน และ (3) หนี้ภาคครัวเรือนที่สะสมในช่วงก่อนหน้า ทำให้การบริโภคฟื้นตัวได้ช้า และครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยที่มีภาระหนี้สูงจะสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ลดลง จึงควรให้ความสำคัญต่อการบริหารรายได้รายจ่าย และวินัยทางการเงิน ควบคู่กับการพัฒนากลไกตลาดให้สามารถทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การขยายสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิต
นอกจากปัจจัยเสี่ยงในประเทศแล้ว ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก จนอาจทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนมากขึ้น ซึ่งทางการ และภาคเอกชนควรเตรียมพร้อมรับมือต่อปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) มีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กับคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ครั้งที่ 2/2557 โดยมีประเด็นสำคัญตามที่แถลงผ่านเว็บไซต์ ธปท. โดยที่ประชุมเห็นว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีแม้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ และระบบธนาคารพาณิชย์มีผลการดำเนินงานดี จึงยังสามารถขยายสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่อัตราการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนชะลอลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ด้อยลงบ้างตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะสินเชื่ออุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดใหญ่บางรายมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายกิจการ และรักษาต้นทุนทางการเงินในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงอาจทำให้อ่อนไหวต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากขึ้น
ที่ประชุมเห็นว่า ยังมีความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามในระยะต่อไป คือ (1) ความเข้มแข็งของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย (2) พฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for yield) รวมถึงการเก็งกำไรในสินทรัพย์ ซึ่งหากมีการประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไปจะก่อให้เกิดความเปราะบางทางการเงิน และ (3) หนี้ภาคครัวเรือนที่สะสมในช่วงก่อนหน้า ทำให้การบริโภคฟื้นตัวได้ช้า และครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยที่มีภาระหนี้สูงจะสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ลดลง จึงควรให้ความสำคัญต่อการบริหารรายได้รายจ่าย และวินัยทางการเงิน ควบคู่กับการพัฒนากลไกตลาดให้สามารถทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การขยายสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิต
นอกจากปัจจัยเสี่ยงในประเทศแล้ว ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก จนอาจทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนมากขึ้น ซึ่งทางการ และภาคเอกชนควรเตรียมพร้อมรับมือต่อปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวต่อไป