รมว.คลัง แนะไทยต้องพึ่งพา ศก. ในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดจีดีพีปี 58 ขยายตัวได้ 3.5% การส่งออกโตได้ 3.7% โดยเชื่อว่า ธปท. อาจต้องขยับ ดบ.นโยบายไปที่ 2.5%
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “ปฏิรูปการส่งออกอย่างไร ให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยกลับคืนมา” โดยระบุว่า โครงสร้างทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแแปลงไปมาก เมื่อเทียบปี 2539 กับปี 2556 เดิมไทยพึ่งพาการส่งออกขับเคลื่อนเศรษฐกิจร้อยละ 42.5 ส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างผลิต ขณะที่ปี 2556 การส่งออกมีสัดส่วนร้อยละ 74 นับว่าเศรษฐกิจส่วนใหญ่มาจากการส่งออกผลักดัน เมื่อส่งออกมากย่อมมีความเสี่ยงเพิ่ม จึงต้องหาแนวทางพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อพึ่งพาตนเองให้มากขึ้น
สำหรับสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก ยังมีความเป็นห่วงการปลูกพืชทางเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะเกษตรกรยุคนี้เริ่มมีปัญหา เมื่อแรงงานปัจจุบันเริ่มเข้าสู่วัยชรา แต่ลูกหลานกลับไม่ยอมสานต่ออาชีพทางการเกษตร ทำให้การปลูกพืชทางเกษตรของไทยจะเริ่มมีปัญหา และหลายส่วนเริ่มใช้แรงงานต่างด้าวทดแทน จึงเป็นห่วงโครงสร้างปัญหาดังกล่าว
นายสมหมาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อลดปัญหาการเป็นประเทศรับจ้างผลิตและการส่งเสริมผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำหรับการผลิตเพื่อการส่งออกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) หลังจากคณะกรรมการบีโอไอเห็นชอบส่งเสริมการลงทุนภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ ด้วยการมุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ให้ความสำคัญกับประเภทกิจการที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อภาคอุตสาหกรรมและประเทศเป็นหลัก เช่น กิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง กิจการเชิงสร้างสรรค์ กิจการหรือบริการเพื่อรองรับการพัฒนาดิจิตอลอีโคโนมี กิจการที่พัฒนาจากทรัพยากรในประเทศ
ดังนั้น การส่งเสริมการลงทุนภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ จึงยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ตามเขตที่ตั้ง เหลือเฉพาะพื้นที่ที่มีรายได้ต่อหัวต่ำใน 20 จังหวัดเท่านั้น ยอมรับว่าการส่งเสริมแบบใหม่ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ลดลงกว่าแบบเดิมที่เคยสูญเสียถึง 210,000 ล้านบาท และกระทบภาษีศุลกากรอีกประมาณ 75,000 ล้านบาท
ด้านนางมัทนา สานติวัตร อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า กรุงเทพโพล โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 28 แห่ง ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจีดีพีปี 2558 จะขยายตัวร้อยละ 3.5 เพราะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.3 ส่วนทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจต้องขยับอัตราดอกเบี้ยจากปัจจุบันไปอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ในช่วงปลายปี 2558 การส่งออกขยายตัวดีขึ้นถึงร้อยละ 3.7
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ว่าการส่งออกของไทยปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 3.5 สูงกว่าปี 2557 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 หลังจาก 9 เดือนแรกปีนี้การส่งออกติดลบร้อยละ 0.9 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวชัดเจน แม้ว่าเศรษฐกิจในยุโรป ญี่ปุ่นและจีนจะยังไม่ฟื้นตัวมากก็ตาม ดังนั้น การจะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จำเป็นต้องเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐฯ มากขึ้น จากปัจจุบันส่งออกไปในสัดส่วนร้อยละ 10
สำหรับการส่งเสริมการส่งออกผ่านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในเขตชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการผลิตและกระจายสินค้านั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า จะทำให้การส่งออกไปประเทศในกลุ่ม CLMV มีปริมาณเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 10 โดยกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 7-8 ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากผู้ประกอบการไทยมุ่งส่งออกไปประเทศ CLMV มากขึ้นจะส่งผลดีต่อภาพรวมส่งออกไทยมากขึ้น