หุ้นปิดบวก 12.20 จุด ที่ระดับ 1,581.27 จุด ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มแบงก์ พลังงาน และสื่อสาร แนะจับตาถกมาตรการคุมหุ้นร้อน 19 พ.ย. ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุมฯ คาดพรุ่งนี้แกว่งกรอบ 1,550-1,600 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,581.27 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.78% มูลค่าการซื้อขาย 51,048.15 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,587.13 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,571.37 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดยุโรปที่เปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ปรับขึ้น ขานรับประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาระบุว่า อาจเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศกลุ่มยูโรโซน
ส่วนตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มแบงก์ พลังงาน และสื่อสาร วันนี้ต่างปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ดี ยังมีนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูมาตรการคุมหุ้นร้อนที่จะมีการหารือวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.)
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนวันพรุ่งนี้ เพราะอาจมีความเห็นจากคณะกรรมการต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และอาจกดดันให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดได้ อีกทั้งในช่วงวันที่ 20 พ.ย.ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตทั้งของจีน ยุโรป และสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศออกมา
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดฯ คงจะแกว่งตัวในลักษณะซึมรอข้อสรุปมาตรการคุมหุ้นร้อน แต่ภาพโดยรวมของตลาดฯ ในช่วงนี้คงเคลื่อนไหวไซด์เวย์รอปัจจัยกระตุ้นใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,600 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ITD มูลค่าการซื้อขาย 1,991.81 ล้านบาท ปิดที่ 6.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,812.41 ล้านบาท ปิดที่ 387.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
GEL มูลค่าการซื้อขาย 1,699.78 ล้านบาท ปิดที่ 1.14 บาท ลดลง 0.07 บาท
PAF มูลค่าการซื้อขาย 1,511.04 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 1,204.98 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท