ตลาดหุ้นไทยทรงตัว ดัชนีปิดลบ 1.33 จุด โดยมีแรงขายหุ้นกลางและเล็ก ขณะที่ส่วนใหญ่ยังรอดูตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 3 ในวันจันทร์นี้ และผลประชุมเฟด 19 พ.ย.นี้ อาจมีความเห็นของกรรมการบางคง และการส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ย ส่วนในประเทศจับตามาตรการคุมหุ้นร้อน ซึ่งจะชัดเจน 19 พ.ย.นี้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,575.88 จุด ลดลง 1.33 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 47,053.36 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,580.92 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,572.87 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ-ซึม โดยเจอแรงขายที่มาจากหุ้นขนาดกลาง-เล็กเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการขายลดความเสี่ยงจากที่สัปดาห์หน้าจะมีการหารือมาตรการคุมหุ้นร้อนในวันที่ 19 พ.ย.นี้ อีกทั้งกลุ่มพลังงานฉุดตลาดฯ ด้วยหลังจากราคาน้ำมันยังดิ่งอยู่
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ต่างรอการเปิดเผยรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ เช่นกัน ซึ่งอาจจะมีความเห็นจากคณะกรรมการบางคนถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัว และอาจส่งสัญญาณไปถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นก็ได้
ทั้งนี้ แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นขนาดเล็กไปก่อน แล้วโยกเข้าลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ โดยมองว่าตลาดฯ อาจย่อตัวได้ต่อ แต่กรณีเลวร้ายสุดไม่น่าจะหลุดแนว 1,540 จุด จึงแนะ “ทยอยซื้อ” บริเวณ 1,540-1,550 จุด เนื่องจากยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF-RMF ประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ที่จะเข้ามาลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้ ในวันจันทร์หน้าต้องติดตามตัวเลข GDP ของไทยงวดไตรมาส 3/57 ด้วย
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่า ตลาดฯอาจจะย่อตัวลงได้บ้างจากความเสี่ยงมาตรการคุมหุ้นร้อนแรง พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,590 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
SVI มูลค่าการซื้อขาย 2,078.19 ล้านบาท ปิดที่ 4.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,838.49 ล้านบาท ปิดที่ 388.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
ITD มูลค่าการซื้อขาย 1,728.33 ล้านบาท ปิดที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
IFEC มูลค่าการซื้อขาย 1,368.43 ล้านบาท ปิดที่ 12.80 บาท ลดลง 0.40 บาท
CGD มูลค่าการซื้อขาย 1,365.33 ล้านบาท ปิดที่ 3.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
