แจงผลประกอบการอสังหาฯ ไตรมาส 3/57 รายใหญ่อู้ฟู่ “AP-SPALI-PF-SIRI” นำขบวนกำไรสุทธิพุ่งกระฉูด หลังเริ่มทยอยรับรู้รายได้โครงการห้องชุด แนวราบเริ่มขยายตัวต่อเนื่อง ด้าน QH ฟันกำไร 1,096.76 ล้านบาท โตจากงวดเดียวกันของปีก่อนกว่า 187.47 ล้านบาท “NUSA” แจงพลิกขาดทุนเป็นกำไรสำเร็จ ขณะที่เจ้าพ่อคอนโด “LPN” และเจ้าพ่ออสังหาฯ LH สวนทางเพื่อน รายได้-กำไรสุทธิเติบโตลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการรวบรวมผลการดำเนินงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 กลุ่มบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่มีผลประกอบการที่ขยายตัวในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในไตรมาสนี้อัตราการเติบโตของรายได้ และผลกำไรในการดำเนินธุรกิจขยายตัวสูงกว่าใน 2 ไตรมาสแรกอย่างมาก โดยมีบางบริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิมีอัตราการเติบโตเกินกว่า 100% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยในไตรมาส 3/57 พบว่า บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP มีกำไรสุทธิ 1,035.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีกำไรสุทธิ 405.6 ล้านบาท กว่า 155.3% เนื่องจากในไตรมาสนี้ AP มีรายได้รวม 7,641 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีรายได้รวม 4,445 ล้านบาท 71.9% ซึ่งเกิดจากการโอนห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มถึง 56% ขณะเดียวกัน ยังมีรายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 44%
ทั้งนี้ SPALI หรือบริษัท ศุภาลัยจํากัด (มหาชน) ในไตรมาส 3/57 นี้มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ 5,788.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,931.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 212% โดยเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด 70% และ 30% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และทาวน์เฮาส์ จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ ทำให้ผลประกอบการสําหรับงวด 9 เดือนแรกของปีนี้กําไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,851.18 ล้านบาท ขณะที่ในงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,124.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,726.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 154%
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ PF หรือบริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) พบว่า ในไตรมาส 3/57 มีรายได้รวม 4,164.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีรายได้รวม 2,739.3 ล้านบาท 52% เนื่องจากในไตรมาสนี้ PF มีการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จเพิ่มขึ้น 4 โครงการ ทำให้มีรายได้จากการทยอยโอนห้องชุดเพิ่มเป็น 8 โครงการในไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 313.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีกำไรสุทธิ 61.6 ล้านบาท กว่า 252%
ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/57 ของ SIRI หรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 794 ล้านบาท เติบโต 81% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเติบโต 48% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยในไตรมาส 3/57 ของปีนี้ แสนสิริ มีรายได้รวม 7,400 ล้านบาท เติบโต 20% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน แสนสิริ มีรายได้รวมแล้ว 19,000 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมา แสนสิริ มีกำไรสุทธิ 1,929 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 3 ไตรมาสของปีนี้บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิไปได้แล้ว 2,161 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่ากำไรของทั้งปีที่แล้วกว่า 232 ล้านบาท ทั้งที่ยังรอสรุปผลการดำเนินงานอีกหนึ่งไตรมาส จึงทำให้คาดว่าทั้งปี แสนสิริ จะสามารถสร้างสถิติใหม่ของการทำกำไรสูงสุดได้ไม่ยาก”
สำหรับ QH หรือบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 6,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 1,129 ล้านบาท มีอัตรากำไรเติบโตจากไตรมาส 3/56 กว่า 21% โดยไตรมาส 3/56 QH มีรายได้รวม 5,343 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,069.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 881.53 กว่า 187.47 ล้านบาท
ด้านบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ในไตรมาส 3/57 มีรายได้รวมที่ 366.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 667.35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาสนี้มีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นจากการขายบ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 212.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 494.33% และยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด จำนวน 99.88 ล้านบาท หรือ 100% ของช่วงเดียวกันของปี 56 โดยในไตรมาสนี้ NUSA มีกำไรสุทธิ 49.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 3/56 NUSA มีผลขาดทุนสุทธิที่ 29.23 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานของ LPN หรือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสที่ 3/57 พบว่า มีรายได้รวมจากการส่งมอบห้องชุดรวม 3,539.042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 56 ซึ่งมีรายได้รวม 3,461.902 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 561.033 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 1.90% ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 614.457 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH พบว่า ในไตรมาส 3/57 นี้มีรายได้รวม 6,677.25 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีรายได้รวม 7,173.72 ล้านบาท ลดลงกว่า 496.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,730.73 ล้านบาท ลดลงช่วงเดียวกันของปี 56 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,842.02 ล้านบาท กว่า 111.2 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการรวบรวมผลการดำเนินงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 กลุ่มบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่มีผลประกอบการที่ขยายตัวในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในไตรมาสนี้อัตราการเติบโตของรายได้ และผลกำไรในการดำเนินธุรกิจขยายตัวสูงกว่าใน 2 ไตรมาสแรกอย่างมาก โดยมีบางบริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิมีอัตราการเติบโตเกินกว่า 100% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยในไตรมาส 3/57 พบว่า บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP มีกำไรสุทธิ 1,035.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีกำไรสุทธิ 405.6 ล้านบาท กว่า 155.3% เนื่องจากในไตรมาสนี้ AP มีรายได้รวม 7,641 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีรายได้รวม 4,445 ล้านบาท 71.9% ซึ่งเกิดจากการโอนห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มถึง 56% ขณะเดียวกัน ยังมีรายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 44%
ทั้งนี้ SPALI หรือบริษัท ศุภาลัยจํากัด (มหาชน) ในไตรมาส 3/57 นี้มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ 5,788.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,931.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 212% โดยเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด 70% และ 30% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และทาวน์เฮาส์ จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ ทำให้ผลประกอบการสําหรับงวด 9 เดือนแรกของปีนี้กําไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,851.18 ล้านบาท ขณะที่ในงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,124.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,726.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 154%
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ PF หรือบริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) พบว่า ในไตรมาส 3/57 มีรายได้รวม 4,164.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีรายได้รวม 2,739.3 ล้านบาท 52% เนื่องจากในไตรมาสนี้ PF มีการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จเพิ่มขึ้น 4 โครงการ ทำให้มีรายได้จากการทยอยโอนห้องชุดเพิ่มเป็น 8 โครงการในไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 313.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีกำไรสุทธิ 61.6 ล้านบาท กว่า 252%
ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/57 ของ SIRI หรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 794 ล้านบาท เติบโต 81% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเติบโต 48% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยในไตรมาส 3/57 ของปีนี้ แสนสิริ มีรายได้รวม 7,400 ล้านบาท เติบโต 20% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน แสนสิริ มีรายได้รวมแล้ว 19,000 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมา แสนสิริ มีกำไรสุทธิ 1,929 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 3 ไตรมาสของปีนี้บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิไปได้แล้ว 2,161 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่ากำไรของทั้งปีที่แล้วกว่า 232 ล้านบาท ทั้งที่ยังรอสรุปผลการดำเนินงานอีกหนึ่งไตรมาส จึงทำให้คาดว่าทั้งปี แสนสิริ จะสามารถสร้างสถิติใหม่ของการทำกำไรสูงสุดได้ไม่ยาก”
สำหรับ QH หรือบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 6,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 1,129 ล้านบาท มีอัตรากำไรเติบโตจากไตรมาส 3/56 กว่า 21% โดยไตรมาส 3/56 QH มีรายได้รวม 5,343 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,069.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 881.53 กว่า 187.47 ล้านบาท
ด้านบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ในไตรมาส 3/57 มีรายได้รวมที่ 366.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 667.35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาสนี้มีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นจากการขายบ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 212.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 494.33% และยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด จำนวน 99.88 ล้านบาท หรือ 100% ของช่วงเดียวกันของปี 56 โดยในไตรมาสนี้ NUSA มีกำไรสุทธิ 49.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 3/56 NUSA มีผลขาดทุนสุทธิที่ 29.23 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานของ LPN หรือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสที่ 3/57 พบว่า มีรายได้รวมจากการส่งมอบห้องชุดรวม 3,539.042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 56 ซึ่งมีรายได้รวม 3,461.902 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 561.033 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 1.90% ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 614.457 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH พบว่า ในไตรมาส 3/57 นี้มีรายได้รวม 6,677.25 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/56 ซึ่งมีรายได้รวม 7,173.72 ล้านบาท ลดลงกว่า 496.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,730.73 ล้านบาท ลดลงช่วงเดียวกันของปี 56 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,842.02 ล้านบาท กว่า 111.2 ล้านบาท
