“เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้” ปลื้มนักลงทุนแห่จองหุ้น IPO ที่เสนอขาย จำนวน 1,200 ล้านหุ้น หมดเกลี้ยง ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน และ บล.เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดกาการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ (J.S.P) ประสานเสียงกระแสตอบรับดีเกินคาด นักลงทุนแห่จองล้น พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ มั่นใจจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ขณะที่ผู้บริหาร “ทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา” ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ ระบุบริษัทฯ เตรียมนำเม็ดเงินหลังระดมทุนไปซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบคอมมูนิตีมอลล์แบบครบวงจร หวังต่อยอดในอนาคต
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ J.S.P เปิดเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 1,200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท ในช่วงระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้การตอบรับจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ
“นักลงทุนมีความมั่นใจในหุ้น JSP เชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ แนวโน้มในการเติบโตที่ชัดเจน ด้วยทำเลของโครงการทั้งสำเพ็ง 2 ย่านกัลปพฤกษ์-สาทร โครงการทิวลิป สแควร์ ย่านอ้อมน้อย และโครงการไมอามีบางปู โดยหุ้น J.S.P จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้น โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่า J.S.P จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ และไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังอย่างแน่นอน” นายนิมิต กล่าว
ด้าน นายไพฑูรย์ ธำรงกิตติคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดกาการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า การจองหุ้น J.S.P ในช่วงที่ผ่านมา มีการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยจะเห็นได้จากยอดจองซื้อหุ้นล้นหลาม ซึ่งถือเป็นความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ
ด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบ และที่อยู่อาศัย จึงเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารงานที่มั่นใจ และใส่ใจ ในทุกรายละเอียดของแต่ละโครงการ
ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ทางบริษัทฯจะนำมาใช้ในการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนนั้น จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับถือลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาว โดย J.S.P จัดเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่โดดเด่นอีกตัวหนึ่ง จากนโยบายการจ่ายปันผลที่ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ J.S.P กล่าวว่า รู้สึกยินดี และขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้น J.S.P อย่างน่าประทับใจ ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปเงินที่ได้จากการระดมทุนไปซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยเน้นไปที่แถบชานเมือง และปริมณฑล ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการขยายธุรกิจในปีหน้าว่า จะมีการเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ โดยยังคงเป็นโครงการเชิงพาณิชย์แนวราบ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับการพัฒนาโครงการในปัจจุบัน บริษัทฯ มีการดำเนินการอยู่ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอาคารพาณิชย์ และพื้นที่ให้เช่าภายใต้ชื่อ โครงการสำเพ็ง 2 มูลค่า 7,500 ล้านบาท โครงการที่อยู่อาศัยแบบผสมผสานทิวลิป สแควร์ ซึ่งประกอบไปด้วย ชอปปิ้งมอลล์ คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท และโครงการที่พักอาศัยไมอามี่ บางปู วิลล่าคอนโดหรูติดทะเล ซึ่งถือเป็นที่พักอาศัย แหล่งท่องเที่ยว ช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดย่านบางปู มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท
“ผมในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ รู้สึกดีใจต่อการตอบรับจากนักลงทุนที่ให้ความสนใจจองหุ้นของบริษัทในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งเราพร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดีในอนาคตอย่างแน่นอน” นายทนงศักดิ์กล่าว