ศูนย์ข่าวขอนแก่น - บมจ.เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบและที่อยู่อาศัย โรดโชว์หุ้นเพิ่มทุนที่จังหวัดขอนแก่น เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 1,200 ล้านหุ้น โชว์จุดแข็งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบขนาดใหญ่ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในสิ้นปีนี้
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบและที่อยู่อาศัย จัดกิจกรรมนำเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 1,200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่นักลงทุนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง โดยเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในสิ้นปีนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบและที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ขณะนี้รอทาง ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่ง
บริษัทฯ ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,200 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,100 ล้านบาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้
วัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการของบริษัทในอนาคต และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40% ของกำไรสุทธิ
นายทนงศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการสำเพ็ง 2 มูลค่า 7,500 ล้านบาท บนถนนสาทร-กัลปพฤกษ์ เป็นโครงการอาคารพาณิชย์ พื้นที่ให้เช่า (ศูนย์การค้าให้เช่า ศูนย์อาหาร และตลาดน้ำ) และพื้นที่ให้บริการ (อาคารจอดรถ) โดยคาดว่าไตรมาส 3/2557 พื้นที่ให้เช่า และพื้นที่ให้บริการจะเริ่มเปิดโครงการได้
โครงการไมอามี่ บางปู มูลค่า 5,500 ล้านบาท บนทำเลย่านบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เป็นโครงการที่พักอาศัยภายใต้แนวคิดเมืองติดทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ประกอบไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียมและพื้นที่ให้เช่า (ศูนย์การค้าให้เช่า) และโครงการทิวลิป สแควร์ มูลค่า 1,800 ล้านบาท บนทำเลย่านอ้อมน้อย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบผสมผสาน ที่มีแนวคิดออกแบบโครงการให้เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปร่วมสมัย ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ และคอมมูนิตีมอลล์ โดยคาดว่าทั้ง 3 โครงการจะทยอยรับรู้รายได้แล้วเสร็จภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
“จุดแข็งของ เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้พัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์แนวราบขนาดใหญ่ แตกต่างจากผู้พัฒนารายอื่นที่เน้นพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่สำคัญความต้องการพื้นที่ค้าปลีกมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีโครงการอยู่ระหว่างพัฒนามูลค่าถึง 15,000 ล้านบาท และรายได้จากค่าเช่าในอนาคตที่จะสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องของรายได้และกำไรสุทธิ” นายทนงศักดิ์กล่าว