นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2557 ไม่น่าจะมีปัจจัยที่กดดันให้ SET Index ปรับฐานรุนแรง ขณะเดียวกัน ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินปัจจัยบวกมีถึง 2 กรณี 1.ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เพิ่มวงเงิน QE เป็น 80 ล้านล้านเยนต่อปี (จากเดิม 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี) หรือเพิ่มขึ้น 10-20 ล้านล้านเยนต่อปี และ 2.ธนาคารกลางยุโรป ที่จะการประชุมวันที่ 6 พ.ย. น่าจะมีความชัดเจนในการเข้าซื้อ covered bonds ในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และหลังจากนี้จะเริ่มเข้าซื้อ ABS ในประเทศโปรตุเกส และกรีซ ที่ได้ใช้มาตรการ TLTROs ไปแล้วก่อนหน้า
ด้านปัจจัยภายในประเทศมองว่า ยังคงมีแรงซื้อจากกองทุน LTF และ RMF ที่ปกติมีการซื้อสุทธิมากที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม โดยปีนี้คาดว่ายังมีการซื้อเพิ่มอีกราว 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะมีเม็ดเงินจากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ จำนวน 3 กอง เข้ามาในช่วงกลางสัปดาห์นี้
“ประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ 2 เดือนสุดท้ายไม่เห็นปัจจัยลบที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของทั้ง FED และ ECB ขณะที่การประชุม กนง. ก็ไม่น่าจะเห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน การประกาศงบ 3Q57 ในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นก็ได้ตอบสนองไปแล้ว แนะนำนักลงทุนน่าเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ได้”