บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานความเคลื่อนไหวเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา (27-31 ต.ค.) ว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 32.575 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยถูกกดดันจากแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงใกล้สิ้นเดือนของกลุ่มผู้นำเข้า ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนเพิ่มจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC ที่สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าการประกาศยุติมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเป็นไปตามที่ตลาดคาดก็ตาม
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน อนึ่งแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออก ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทไว้ได้บางส่วนในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้ วันที่ 31 ตุลาคมเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.57 เทียบกับระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วันที่ 24 ตุลาคมค่าเงินบาท
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า (3-7 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องจับตาปัจจัยในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ เดือนตุลาคม 2557 ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป นอกจากนี้ จุดสนใจของตลาดการเงินในประเทศอาจอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 พฤศจิกายน ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน อนึ่งแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออก ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทไว้ได้บางส่วนในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้ วันที่ 31 ตุลาคมเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.57 เทียบกับระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วันที่ 24 ตุลาคมค่าเงินบาท
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า (3-7 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องจับตาปัจจัยในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ เดือนตุลาคม 2557 ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป นอกจากนี้ จุดสนใจของตลาดการเงินในประเทศอาจอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 พฤศจิกายน ด้วยเช่นกัน
