ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 ก.ค.-2 ส.ค.) เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยเงินบาทปรับตัวในกรอบแคบช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามกระแสเงินทุนไหลเข้า โดยเฉพาะในส่วนของตลาดพันธบัตร
อย่างไรก็ตาม เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ จากข้อมูลจีดีพี และต้นทุนแรงงานของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/57 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ซึ่งกระตุ้นกระแสการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ที่เข้ามาจากหลายกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ก็กดดันให้เงินบาทกลับมายืนที่ระดับอ่อนค่ากว่า 32.25 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงปลายสัปดาห์ ในวันศุกร์ (1 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.25 หลังอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 32.29 บาทต่อดอลลาร์เทียบกับระดับ 31.82 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ก.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (4-8 ส.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาผลการประชุมกนง. (6 ก.ค.) การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (7 ก.ค.) และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของจีนเดือนกรกฎาคม ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคบริการเดือนกรกฎาคม ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมิถุนายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาข้อมูล PMI ภาคบริการเดือนกรกฎาคมของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน เงินยูโรและเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ จากข้อมูลจีดีพี และต้นทุนแรงงานของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/57 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ซึ่งกระตุ้นกระแสการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ที่เข้ามาจากหลายกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ก็กดดันให้เงินบาทกลับมายืนที่ระดับอ่อนค่ากว่า 32.25 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงปลายสัปดาห์ ในวันศุกร์ (1 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.25 หลังอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 32.29 บาทต่อดอลลาร์เทียบกับระดับ 31.82 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ก.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (4-8 ส.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาผลการประชุมกนง. (6 ก.ค.) การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (7 ก.ค.) และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของจีนเดือนกรกฎาคม ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคบริการเดือนกรกฎาคม ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมิถุนายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาข้อมูล PMI ภาคบริการเดือนกรกฎาคมของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน เงินยูโรและเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
