เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันลงและทองคำร่วงแรงแตะระดับต่ำสุดรอบ 4 ปีเมื่อวันศุกร์(31ต.ค.) จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังธนาคารกลางญี่ปุ่นลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้ผลักให้วอลล์สตรีทพุ่งทะยานจนทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 80.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 38 เซนต์ ปิดที่ 85.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คณะกำกับนโยบายการเงินของญี่ป่นแถลงในวันศุกร์(31ต.ค.) ว่าจะเพิ่มเงินในโครงการพันธบัตรอีก 20 ล้านล้านเยน (ราว 6 ล้านล้านบาท) เป็นปีละ 80 ล้านล้านเยน (ราว 24 ล้านล้านบาท) นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกหลังจากบีโอเจเริ่มโครงการนี้เมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ภายใต้นโยบายที่หวังจะเอาชนะภาวะเงินฝืดยืดเยื้อหลายปีและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต สวนทางกับสหรัฐฯที่ประกาศยุติมาตรการนี้ไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์
ดอลลาร์ของสหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอย่างแรงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนตามหลังความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางยุโรป เช่นเดียวกับเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งดอลลาร์ที่แข็งค่านี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ในขณะเดียวกันดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ตามหลังการลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่อย่างที่ไม่คาดหมายมาก่อนของธนาคารกลางญี่ปุ่น ก็ผลักให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างแรงเมื่อวานนี้(31ต.ค.) โดยช่วงหนึ่งซื้อขายกันที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2010 เลยทีเดียว โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 27 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,171.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(31ต.ค.) ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ หลังจากแบงค์ชาติญี่ปุ่น เพิ่มวงเงินเข้าซื้อพันธมิตร ขณะเดียวกันก็ได้แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทน้ำมันและเทคโนโลยี
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 195.0 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,390.52 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลกว่า 100 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.40 จุด (1.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,018.05 จุด เหนือกว่าระดับสูงุสุดเกือบ 7 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 64.60 จุด (1.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,630.74 จุด สูงสุดในรอบปี
นอกเหนือจากข่าวคราวของธนาคารกลางญี่ปุ่นแล้ว ตลอดยังได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากรายงานผลประกอบการของเหล่าบริษัทน้ำมันและเทคโนโลยี หลังจากก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(30ต.ค.) ก็เพิ่งมีข่าวดีเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ