“คาราบาว กรุ๊ป” เผย ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขาย IPO จำนวน 250 ล้านหุ้น โดยมี 3 กลุ่มถือหุ้นใหญ่บริหาร “น้าแอ๊ด” อยู่อันดับ 3 ถือครอง 14% หลังขายไอพีโอแล้ว ด้านผู้บริหารแจงแผนระดมทุนเพื่อนำไปขยายธุรกิจในประเทศกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะประเทศพม่า และประเทศเวียดนาม
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เปิดเผยว่า หลังจาก CBG ยื่น Filling และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงก่อนหน้านี้ และล่าสุด ขณะนี้ ก.ล.ต. ได้นับหนึ่ง Filling ของ CBG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายสิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และหัวหน้าสายงาน Corporate Finance and Equity Capital Markets ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เปิดเผยว่า CBG มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 1,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 850 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 850 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ หลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งนี้จำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น รวมกับการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมอีกจำนวนไม่เกิน 100 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญชำระแล้วทั้งสิ้น 1,000 ล้านหุ้น โดย CBG มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อจะนำไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน ขยายธุรกิจในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ขณะที่ นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CBG เปิดเผยว่า CBG เป็นบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบันบริษัทลงทุนในหุ้นของบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด เป็นผู้ผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวแดง และเครื่องดื่มอื่นๆ ปัจจุบัน CBD ผลิตเครื่องดื่ม 2 ชนิด ได้แก่ คาราบาวแดง และเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้เครื่องหมายการค้าสตาร์ทพลัส
อีกทั้ง บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด เป็นบริษัทซึ่งบริหารจัดการการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท ให้แก่ช่องทางการค้าภายในประเทศผ่านร้านค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และร้านค้าแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) และบริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด เป็นผู้ผลิต และจัดหาขวดแก้วเพื่อใช้ในการบรรจุเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่มอื่นๆ ของกลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศพม่า และประเทศเวียดนาม โดยบริษัทใช้กลยุทธ์ในการเลือกประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพ มีการเจริญเติบโตสูง และมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดี
ขณะเดียวกัน น.ส.ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ CBG เปิดเผยว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัง IPO ประกอบด้วย กลุ่มนายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ 34.3%, กลุ่ม น.ส.ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ 26.6%, กลุ่มนายยืนยง โอภากุล 14.2% และเสนอขายต่อประชาชนอีก 25% ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของงบการเงินรวม และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ อัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน เงื่อนไข และข้อจำกัดที่เกี่ยวข้อง
ด้านผลการดำเนินงานในปี 56 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 6,929.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,920.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.3 จากปี 55 ที่มีรายได้รวม 5,008.7 ล้านบาท และในปี 54 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 4,309.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 699.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.2 จากปี 55 ส่วน 6 เดือนแรกปี 57 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 3,743.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.1 จากช่วง 6 เดือนแรกปี 56
สำหรับกำไรสุทธิในปี 56 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 626.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 438.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 233.6 จากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 187.8 ล้านบาท และในปี 54 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 204.5 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรกปี 57 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 495.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 298.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 152.3 จากช่วง 6 เดือนแรกปี 56