xs
xsm
sm
md
lg

นักวิเคราะห์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทย เชื่อได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นปี 57 มาที่ 1,574 จุด จากเดิม 1,484 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ พร้อมคาดการณ์แนวโน้มปี 2558 ดัชนีแตะที่ 1,706 จุด และคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ราว 4.3% ใกล้เคียงประมาณการครั้งก่อนที่ 4.5%

สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนปี 2557-2558 ว่า นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นปี 2557 มาที่ 1,574 จุด จากเดิมประมาณการไว้ที่ 1,484 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ

นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ชี้แจงการปรับเป้าหมายดัชนี ณ สิ้นปี 2557 เพิ่มจากเดิมว่า เป็นเพราะดัชนีจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลเป็นหลัก ตามด้วยการขยายตัวของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และเงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการส่งออก อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก (ยุโรป จีน และญี่ปุ่น) ขยายตัวต่ำกว่าที่คาด

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ปี 2557 ลง 0.5% มาอยู่ที่เฉลี่ย 1.6% จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.1% และปี 2558 จะอยู่ที่เฉลี่ย 4.3% ใกล้เคียงกับประมาณการครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.5% ในขณะที่คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 57 จะเติบโตเฉลี่ย 8.5% ปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 10.3% และประเมินของปี 2558 ไว้ที่เฉลี่ย 14.2% เทียบกับประมาณการครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 12.9%

อุปนายกสมาคมนักวิเคราะฯ กล่าวถึงกรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสิ้นปีนี้จะดีดตัวกลับมาได้ที่ระดับ 1,600 จุด ว่า จะเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลเดินหน้าการลงทุนต่างๆ ตามแผนที่วางไว้ รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/57 ต้องออกมาดีตามคาดการณ์ด้วย หากผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก ประกอบกับตลาดไม่ได้มีพัฒนาการอื่นเพิ่มเติม ดัชนีก็จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,500-1,550 จุด

สำหรับด้านแนวโน้มนักลงทุนต่างชาติทั้งปี 57 นักวิเคราะห์ฯ มองว่า ต่างชาติน่าจะยังขายสุทธิประมาณในหลักหมื่นล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมา มีการเทขายออกไปค่อนข้างมากแล้ว โดยสิ้นปีที่ผ่านมา ขายสุทธิ 1.5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งยังเป็นผลจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกที่กระทบต่อความเชื่อมั่น และความมั่นใจในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติด้วย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ฯ แนะนำให้นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เน้นหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนของรัฐบาล พื้นฐานแข็งแกร่ง ผู้บริหารโปร่งใส มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยรอจังหวะทยอยซื้อสะสม และหลีกเลี่ยงหุ้นเก็งกำไร พร้อมกำหนดวัตถุประสงค์การลงทุนของตนเองอย่างชัดเจน มีวินัยในการลงทุน ติดตามข่าวสารทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างสม่ำเสมอ จัดพอร์ตลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงโดยจัดสรรส่วนหนึ่งไว้ในเงินสด และก่อนลงทุนควรศึกษาข้อมูลของธุรกิจ และบริษัทที่จะลงทุนอย่างละเอียดรอบคอบ หุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำให้ลงทุนตรงกันหลายสำนักวิจัย ได้แก่ INTUCH, KBANK, KTB, PTT
กำลังโหลดความคิดเห็น