ตลท. เผยผลสำรวจซีอีโอ บจ.ไทย พบนักธุรกิจมองเศรษฐกิจไทยดีขึ้น พร้อมขยายการลงทุนในอาเซียน และกลุ่มประเทศ CLMV ยอมรับห่วงหนี้ครัวเรือนสูง และขาดแคลนแรงงาน และยังพบว่า บจ. เตรียมรับมือความผันผวนของค่าเงินบาทใน 6 เดือนข้างหน้า โดยใช้การทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเป็นหลัก
น.ส.ปิญาภรณ์ สดศรีวิบูลย์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของซีอีโอของบริษัทจดทะเบียนไทย (CEO Survey) เพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจไทยและแนวโน้มการลงทุนว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ร้อยละ 66 คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 1.5 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ดี หลังการเมืองมีเสถียรภาพ การใช้จ่ายภาครัฐเริ่มกลับมามีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว และการท่องเที่ยวกลับมาขยายตัวมากขึ้น และมากกว่าร้อยละ 70 มองว่าเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าดีขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ซีอีโอส่วนใหญ่ยังยอมรับมีความเป็นห่วงต่อปัจจัยลบที่จะกระทบเศรษฐกิจและมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะปัจจัยหนี้สินครัวเรือนที่อาจเพิ่มสูงขึ้น กำลังซื้อภายในประเทศอาจไม่ฟื้นตัวตามคาด และต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้นจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ทำให้ห่วงปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
ด้านนายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้ซีอีโอร้อยละ 88 จะลงทุนเพิ่มในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยได้วางแผนขอสินเชื่อเพิ่มเติมจากธนาคารพาณิชย์หรือใช้กำไรสะสม โดยเน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศ ASEAN 5 ร้อยละ 35 กลุ่มประเทศ CLMV ร้อยละ 28 ที่เหลือลงทุนในยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐ
สำหรับสาเหตุที่นักธุรกิจเลือกลงทุนในอาเซียน เนื่องจากเศรษฐกิจกลุ่มประเทศนี้มีอัตราการขยายตัวสูง และมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ใกล้เคียงกับไทย นอกจากนี้ CEO ร้อยละ 66 มองว่ารายได้ธุรกิจส่งออกและแนวโน้มในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้น รวมถึงยังพบว่าบริษัทจดทะเบียนเตรียมรับมือความผันผวนของค่าเงินบาทใน 6 เดือนข้างหน้า โดยใช้การทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเป็นหลัก
ส่วนนโยบายปฏิรูปประเทศที่เอกชนเห็นว่าควรเร่งดำเนินการในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า พบว่าการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นมาเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือการปฏิรูประบบการเมืองและระบบข้าราชการ และนโยบายการคลังการใช้ข่ายภาครัฐและหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ ตลท.และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย จะนำผลการสำรวจครั้งนี้เสนอต่อรัฐบาลต่อไป