ผู้ว่าการ ธปท. คาดจีดีพีปีนี้มีลุ้นโตได้ถึง 2% พร้อมมองแนวโน้มปีหน้ามีโอกาสโต 5% โดยได้รับอานิสงส์การเร่งเบิกจ่ายภาครัฐ ชี้ ระดับหนี้สาธารณะที่ 83% ยังไม่น่าห่วง
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายหลังการให้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ และการดำเนินการการเงินของไทยให้นักลงทุนสถาบันชั้นนำของโลกและนักลงทุน สถาบันในประเทศ ในงาน Thailand Focus โดยระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจะมีโอกาสเติบโตได้ถึง 2% อย่างแน่นอน
โดยคาดว่า ไตรมาส 3-4 ของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเฉลี่ย 3-4% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามแผนที่วางไว้ การกระตุ้นเศรษฐกิจตามโรดแมปต่างๆ ของทางภาครัฐสูงสุด
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการเร่งอนุมัติคำขอส่งเสริมใการลงทุนให้เกิดในทางปฏิบัติโดยเร็ว ซึ่งเมื่อมีการลงทุนต่างๆ ก็จะทำให้เกิดการจ้างงาน และเม็ดเงินกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจ และส่งผลให้เศรษฐกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557-กรกฎาคม 2558 ขยายตัวได้ 5 %
“ยอมรับว่า จีดีพีปีนี้ที่โตประมาณ 2% ต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเติบโตได้ 4-4.5% ผลจากปัญหาการเมืองที่กระทบเศรษฐกิจ แต่ในระยะต่อไป ต้องมีการยกระดับการเติบโตของประเทศให้เต็มศักยภาพ โดยต้องมีทั้งนโยบายสนับสนุนด้านอุปทาน ความสามารถแรงงาน การศึกษา การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาด้านการเงินควบคู่กันไป จึงจะทำให้เศรษฐกิจโตเต็มศักยภาพ”
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีนโยบายประชานิยมมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นพิเศษ แต่หากจะมีมาตรการใดๆ ควรเน้นเฉพาะการแก้ไขปัญหาของผู้เดือดร้อนเฉพาะกลุ่มที่จะไม่สร้างปัญหาในระยะยาว ที่สำคัญรัฐบาลต้องเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ
ส่วนระดับหนี้ครัวเรือนของไทยที่ยังสูงอยู่ 83% ต่อจีดีพีนั้นว่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะอัตราการเติบโตของหนี้ชะลอลงตั้งแต่กลางปี 2556 ขณะที่สถาบันการเงินระวังการปล่อยสินเชื่อ เห็นได้จากสินเชื่อขยายตัวเพียง 6-7% เท่านั้น
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามในระยะต่อไป คือ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศที่ดำเนินนโยบายที่แตกต่างกัน และอาจจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายที่เคลื่อนไหว 2 ทิศทาง ซึ่งทาง ธปท. ต้องเตรียมความพร้อมด้วยการใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น เงินทุนสำรองที่เพียงพอ อย่าไรก็ตาม พื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและมั่นคงและทุนสำรองระดับสูงจะสามารถต้านทานกับความเสี่ยงได้ แต่ก็ไม่ควรประมาทและมีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด