xs
xsm
sm
md
lg

BBL คาดเงินฝากปลายปีแข่งดุ-รับสินเชื่อชะลอ-ปีหน้าฟื้นตาม ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บัวหลวงคาดปลายปีนี้เงินฝากแข่งดุหลังสหรัฐฯ ถอน QE-แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น รับสินเชื่อชะลอตามภาวะเศรษฐกิจ แต่คาดปีหน้าดีขึ้นหลังมาตรการกระตุ้นรัฐบาลเริ่ม

นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)เปิดเผยว่า จากแนวโน้มสภาพคล่องในระยะต่อไปที่อาจจะตึงตัวขึ้น ทั้งจากปัจจัยเงินทุนเคลื่อนย้ายหลังหมดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ที่อาจทำให้มีเงินไหลออกไปยังสหรัฐฯ มากขึ้น รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยทั่้วโลกที่อยู่ในขาขึ้น ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ในช่วงปลายปีนี้การแข่งขันระดมเงินฝากน่าจะมีความรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์พี) ของไทยนั้น คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 1% ในปี 58 จากปัจจุบันที่ระดับ 2%

ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการของรัฐบาลที่ออก ทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และการเร่งทำโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นนั้น จะทำให้เกิดการจ้างงาน การเพิ่มรายได้ให้กับทั้งผู้รับเหมาและแรงงาน ซึ่งจะส่งผลไปถึงการบริโภคในที่สุด

ขณะที่การช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวฤดูกาลผลิต 57/58 ไร่ละ 1,000 บาท ของรัฐบาลนั้น ก็ช่วยกระตุ้นการบริโภคอีกทางหนึ่ง โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจฟื้นตัว เป็นส่วนของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิต อุปโภค-บริโภค ส่งออก และอะไหล่ชิ้นส่วน รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมภายในประเทศที่เกี่ยวกับการเกษตร เช่น ปุ๋ย เป็นต้น

“ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนขณะนี้ ยังไม่น่ากังวล แม้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นบ้างแต่ยังไม่มีนัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ขณะที่ในปีหน้าเศรษฐกิจโลกแม้ฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเปราะบางในบางจุด อาทิ ยุโรปก็ยังมีปัญหาอยู่ สหรัฐฯ ก็ฟื้นตัวขึ้นแต่ยังไม่เต็มที่ ซึ่งก็อาจจะทำให้การส่งออกของไทยยังไม่ดีนัก”

สำหรับการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง จากเดิมคาดว่าจะโต 7-8% แต่ขณะนี้อยู่ที่ 3-5% ซึ่งก็สอดคล้องกับการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ที่ 1.5% ทำให้ความต้องการสินเชื่อชะลอตามไปด้วย ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับทรงตัว เพราะธนาคารไม่ได้เน้นปล่อยสินเชื่อรายย่อย แต่เน้นสินเชื่อรายใหญ่มากกว่า ส่งผลให้เอ็นพีแอลจึงมีน้อย

ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ปรับลดจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 1.5% จากเดิม 3% และปี 58 จาก 4.5% เหลือ 3.5% นั้น ไม่กระทบการขยายตัวของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น กลาง และยาวออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและการใช้จ่ายในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีก็เป็นฤดูกาลที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยมาก ซึ่งทั้งห้างสรรพสินค้าและธุรกิจบัตรเครดิตได้ร่วมกันออกแคมเปญกระตุ้นยอดใช้จ่ายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งก็จะเป็นการกระตุ้นยอดใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าการออกมาตรการต่างๆ ของรัฐจะช่วยให้การใช้จ่ายปีหน้าขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น