ทิสโก้รับสินเชื่อทั้งปีไม่โต-รุกกู้จำนำรถ-ขายประกัน

ทิสโก้เดินหน้าลุยธุรกิจครึ่งปีหลังต่อรับเศรษฐกิจฟื้น เน้นสินเชื่อจำนำรถ-แบงก์แอสชัวรันส์ รับ 6 เดือนแรก “เช่าซื้อ-เอสเอ็มอี” หลุดเป้า ทั้งปีสินเชื่อรวมทรงตัวจากปีก่อน

นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีกว่าครึ่งปีที่ผ่านมาชัดเจนจากภาวะการเมืองที่นิ่ง ประกอบกับผู้บริหารประเทศก็ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่คงจะพอแค่ชดเชยส่วนที่หดตัวไป ธนาคารจึงน่าจะมีการทบทวนเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ โดยสินเชื่อปีนี้คงจะทรงตัวใกล้เคียงกับระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

“สินเชื่อกว่า 80% ของธนาคารเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ต่ำกว่าเป้ามาก จากปีนี้ที่ตั้งไว้ 1.1 ล้านคัน อาจจะเหลือแค่ 8.5 แสนคัน แต่ปลายปีอาจจะกระเตื้องบ้างจากงานมอเตอร์โชว์ต่างๆ ขณะที่เอสเอ็มอีก็รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ แต่สินเชื่อธุรกิจถือว่าบรรลุเป้าหมาย ซึ่งมาตรการต่างๆของรัฐที่ออกมาก็น่าจะส่งผลเต็มที่ในช่วงปีหน้า ดังนั้น ปีนี้จึงน่าจะทำได้แค่ชดเชยส่วนที่หายไปจากครึ่งปีแรกเท่านั้น”

สำหรับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้สถานการณ์ต่างๆจะไม่เอื้อ แต่ธนาคารก็ยังมีอัตราการเพิ่มของกำไรได้ เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี และการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เน้นดูแลผลตอบแทน การบริหารความเสี่ยง และรอดูจังหวะที่เหมาะสมในการขยายต่อไป

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า สินเชื่อของธนาคารในครึ่งปีแรกลดลงประมาณ 4% โดยในไตรมาส 2 หดตัวลดลงกว่าไตรมาสแรก เป็นผลมาจากการลดลงของสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อเอสเอ็มอี ส่วนสินเชื่อธุรกิจเติบโตได้ 2-3% ทั้งนี้ การลดลงของสินเชื่อเอสเอ็มอีนั้น เป็นสินเชื่อในส่วนของดีลเลอร์รถ แต่เอสเอ็มอีในธุรกิจโลจิสติกส์ยังขยายตัวได้ดีอยู่

ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) นั้น ในครึ่งปีหลัง ก็คงจะเห็นผลจากการแก้ไขปัญหาหนี้เสียของรถมือสองในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเอ็นพีแอลน่าขึ้นสู่ระดับสูงไปแล้วเมื่อไตรมาส 2 ขณะที่ราคารถมือสองก็น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว จึงเชื่อว่าตรงจุดนี้น่าจะทรงตัว และน่าจะกลับขึ้นมาได้ในช่วงที่ตลาดเอื้ออำนวย

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง ธนาคารยังคงมุ่งขยายสินเชื่อทุกภาคส่วน โดยสินเชื่อที่เกี่ยวกับรถยนต์ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แต่จะเน้นทำตลาดที่สินเชื่อรายย่อยระดับล่าง ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่กำลังเติบโตได้ดีและมีเครือข่ายครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันธนาคารมียอดคงค้างที่ 3,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาทในปีหน้า รวมถึงธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Banceassurance) เพื่อเพิ่มรายได้ โดยในส่วนของประกันภัย ธนาคารได้ร่วมกับบริษัทประกันภัย 40 แห่ง และประกันชีวิต ร่วมกับบริษัทเอไอเอในการออกผลิตภัณฑ์