ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 17 กันยายน 2557 เวลา 10.00 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,573.96 จุด เพิ่มขึ้น 8.55 จุด เปลี่ยนแปลง +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 2,498.02 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.ธนชาต คาดตลาดวันนี้น่าจะรีบาวนด์กรอบแคบ รับ PBOC อัดฉีดเงิน โดยยังคงมุมมอง “ระมัดระวัง“ การลงทุนในตลาดหุ้นไทยสำหรับช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ต่อไป หลักๆ เนื่องจากการประเมินมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวมาก จากการเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากสัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นตลอดนับตั้งแต่ต้นปี ปัจจุบัน ในเดือนกันยายน (MTD) อยู่ที่ 66% เทียบเท่ากับ Peak ของดัชนีช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 56 ประกอบกับความไม่แน่นอนของทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีหน้า
พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุน ขึ้นขายลดพอร์ต ถือเงินสดเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยง หลังมอง SET แถว 1,600+/- เริ่มอิ่มตัวในระยะสั้น รอทยอยสะสมช่วงราคาหุ้นอ่อนตัว โดยเฉพาะหาก SET ย่อลงอยู่ในช่วง 1,540-1,560 เรายังเลือกสะสมหุ้นเป็นรายตัว
ขณะที่หุ้นโลกเมื่อคืน (16 ก.ย.) ปิดกระจัดกระจาย โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น เก็งผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ยังไม่น่าจะส่งสัญญาณเปลี่ยนทิศทางนโยบายดอกเบี้ย รวมทั้งได้แรงหนุนจากข่าวธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมอัดฉีดสภาพคล่องด้วยการปล่อยเงินกู้ 3 เดือน ให้แก่ 5 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน รวมเป็นเงิน 5 แสนล้านหยวน หรือราว 8.14 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้น ศก. ส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น เช่น น้ำมัน และราคาโลหะ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากตัวเลข ศก.ที่อ่อนแอต่อเนื่อง โดยผลสำรวจคาดการณ์ภาวะธุรกิจ (ZEW Survey Expectations) ของสหภาพยุโรปปรับตัวลงจาก 23.7 ในเดือนก่อนหน้า มาที่ 14.2 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.56 ประกอบกับนักลงทุนรอดูผลการลงประชามติของสกอตแลนด์ ที่จะแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ในวันที่ 18 ก.ย. นี้ด้วย ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้ สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 58 วาระ 3 แล้ว รอนายกฯ ทูลเกล้าฯ ทันใช้ 1 ต.ค. นี้ มอง SET หลังชนที่แนวรับ 1,565 จุดควรจะรีบาวนด์ทันที แต่กรอบขึ้นจำกัดแถวแนวต้าน 1,575+/- จุด
โดยเมื่อเวลา 10.16 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,571.81 จุด เพิ่มขึ้น 6.40 จุด เปลี่ยนแปลง +0.41% มูลค่าการซื้อขาย 6,209.30 ล้านบาท