ดัชนีเชื่อมั่นราคาทองคำต่ำกว่าระดับ 50 จุด ในรอบ 3 เดือน สะท้อนราคาทองลงต่อ คาดมีโอกาสเห็น 18,200-18,300 บาท ปลายปีนี้ โดยมีความกังวลว่า ทองคำจะขาดความน่าสนใจหลังการใช้นโยบายการเงินเพื่อหนุนตลาดของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งจะมีผลทำให้เงินบาทแข็งค่า และการฟื้นตัวของตลาดการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะทำให้การส่งสัญญาณดอกเบี้ยทำได้เร็วขึ้น
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกันยายน 2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำลดลงจากผลสำรวจเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 42.61 จุด หรือลดลง 13.47 จุด จากเดือนสิงหาคม ดัชนีราคาทองคำอยู่ที่ 56.08 ซึ่งค่าดัชนีฯ ต่ำกว่าระดับ 50 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สะท้อนว่าทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำ และกลุ่มผู้ค้าทองคำมองว่า ราคาทองคำจะปรับลดลง
ขณะที่ดัชนีราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีรวมอยู่ที่ระดับ 56.65 จุด ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2.20 จุด จาก 58.85 จุด โดยมีความกังวลว่าทองคำจะขาดความน่าสนใจหลังการใช้นโยบายการเงินเพื่อหนุนตลาดของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งจะมีผลทำให้เงินบาทแข็งค่า และการฟื้นตัวของตลาดการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะทำให้การส่งสัญญาณดอกเบี้ยทำได้เร็วขึ้น
นายกมลธัญ กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้ ต่อเนื่องปี 2558 อยู่ในช่วงขาลง คาดว่าปลายปีนี้ราคาทองมีโอกาสลดลงต่ำกว่า 1,180 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือประมาณ 18,200-18,300 บาท/บาททองคำ ระดับค่าเงินบาทที่ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่คงเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากเป็นระดับใกล้ราคาต้นทุนหน้าเหมือง
ขณะที่กองทุนทองคำขนาดใหญ่ รวมทั้งธนาคารกลาง จะเข้าสะสมทองคำ หากราคาต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนความผันผวนในปีหน้าคาดว่ายังมีอยู่สูง เพราะมีหลายปัจจัยต้องติดตาม ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ และความเข้มงวดนโยบายการเงินของประเทศหลัก
ทั้งนี้ ผู้ค้าทองคำมองว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะมีกรอบราคาสูงที่สุดอยู่ระหว่าง 1,300-1,330 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,240-1,250 ดอลลร์สหรัฐ/ออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 95.5% กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 19,600-20,200 บาท/บาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,900-19,000 บาท/บาททองคำ