หุ้นไทยผันผวน ลุ้นทดสอบ 1,600 จุด นักลงทุนยังกังวลเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ หลังเดินหน้าลด QE ต่อเนื่องอีก 10,000 ล้านดอลาร์สหรัฐ
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ดัชนีหุ้นไทย วันที่ 10 ก.ย. ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,582.13 จุด ลดลง 1.05 จุด หรือร้อยละ 0.07 มูลค่าการซื้อขาย 59,071.83 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเป็นไปอย่างผันผวน ช่วงเช้าปรับลดลง แต่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับ ต่ำสุดที่ 1,566.44 จุด และสูงสุดที่ 1,584.99 จุด ตลาด mai ปิดที่ 682.64 จุด เพิ่มขึ้น 6.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,116.64 ล้านบาท
ด้านสัดส่วนนักลงทุน นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 615.85 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 687.03ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 223.82 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,526.70 ล้านบาท
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายมีการพลิกกลับขึ้นไปได้จากช่วงเช้าที่ปรับตัวลงไปเร็ว ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่า ตลาดอาจจะกังวลเมื่อดัชนีฯ เข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด ซึ่งจะทำให้ตลาดผันผวนแรงขึ้น และต้องเผชิญแรงขายทำกำไรหรือการปรับฐานระยะสั้นได้
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ มองเป็นการพักฐาน จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งต้องรอผลการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) เชื่อว่า ตลาดน่าจะลุ้นทดสอบแนว 1,600 จุด โดยอาจจะเริ่มเก็งกำไรกันมากขึ้นหลังจากที่เข้าใกล้วันแถลงนโยบายของรัฐบาลวันศุกร์นี้ (12 ก.ย.) พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,595-1,600 จุด
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ธนชาต ระบุว่า ช่วงเช้าหุ้นลงเพราะความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีต่อเนื่องและอัตราการว่างงานเดือนล่าสุดปรับลดลงร้อยละ 6.1 โดยการประชุม FOMC วันที่ 16-17 ก.ย.นี้ คาดว่า จะลดวงเงิน QE ต่อเนื่องอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/เดือน และจะสิ้นสุดมาตรการ QE ภายในการเดือน ต.ค.นี้ เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับหุ้นสื่อสาร ระยะสัปดาห์ยังมีมุมมองเป็นบวก เป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,600 จุด