หุ้นปิดครึ่งวันเช้าปรับลง 0.44 จุด คาดตลาดพักตัว และแกว่งในกรอบแคบเพื่อรอดูผล Brexit ขณะที่สภาพคล่องในตลาดมีสูง ด้านในประเทศ สัญญาณเศรษฐกิจไทยในประเทศยังคงมีแนวโน้มที่ดีจากราคาพืชผลการเกษตรที่กลับมาดีขึ้น หลังภาวะภัยแล้งบรรเทา และภาครัฐเริ่มต้นที่จะเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ และการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดน่าจะเป็นส่วนผลักดันตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไปได้ โดยมองเป้าหมายของดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ที่ระดับ 1,550 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในโหมดชะลอตัว หลังจากที่ดีดตัวขึ้นตามทิศทางของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยตลาดรอดูผล Brexit ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (23 มิ.ย.) ทำให้ภาพรวมการลงทุนค่อนข้างเงียบเหงาด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลง ขณะที่ยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นบางตัวที่มีกระแสข่าว ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละบริษัท แต่หุ้นขนาดใหญ่ไม่ได้เคลื่อนไหวมากนักทำให้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ
โดยเช้าวันนี้ (22 มิ.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,430.36 จุด ลดลง 0.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.03% มูลค่าการซื้อขาย 21,485.27 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยหลักที่ตลาดให้ความสำคัญในขณะนี้ คือ เรื่องผลโหวต Brexit ซึ่งในมุมมองของธนชาตเห็นว่า อังกฤษน่าจะยังโหวตอยู่ในสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไป ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็น่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยเห็นว่ามีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเดียวในปีนี้ในช่วงไตรมาส 4/59 ทำให้ทิศทางของนโยบายการเงินยังเป็นบวก สภาพคล่องในตลาดสูงจากการที่อียู และญี่ปุ่นยังคงมีมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ขณะที่สัญญาณเศรษฐกิจไทยในประเทศยังคงมีแนวโน้มที่ดีจากราคาพืชผลการเกษตรที่กลับมาดีขึ้นหลังภาวะภัยแล้งบรรเทา และภาครัฐเริ่มต้นที่จะเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ และการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดน่าจะเป็นส่วนผลักดันตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไปได้ โดยมองเป้าหมายของดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ที่ระดับ 1,550 จุด
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ รอดูผล Brexit ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมการลงทุน โดยมองแนวรับที่บริเวณ 1,426 และแนวต้านที่ 1,436 จุด
