“เคทีซี” ออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ วงเงินไม่เกิน 4 พันล้านบาท อายุ 3 ปี 10 เดือน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.30% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTC)เปิดเผยว่า เคทีซีเตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 10/2557 อายุ 3 ปี 9 เดือน 23 วัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ร้อยละ 4.25 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยสำหรับระยะเวลาที่เหลือ 9 เดือน 23 วัน คงที่ร้อยละ 4.50 ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 4.30 ต่อปี) จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 4,000 ล้านบาท โดยแบ่งการเสนอขายเป็น 2 ช่วง คือ คาดว่าวันที่ 24-26 กันยายน 2557 สำหรับผู้ถือหุ้นกู้ KTC 14OA ที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน และมีชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียน วันที่ 21 สิงหาคม 2557 ซึ่งหุ้นกู้ KTC14OA นี้จะครบกำหนดในวันที่ 17 ตุลาคมนี้
ส่วนอีกช่วงคาดว่าจะเป็นวันที่ 13-16 ตุลาคม 2557 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อเป็นทางเลือกในการออมอีกทางหนึ่ง โดยเสนอขายขั้นต่ำที่ 1 แสนบาท และเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณของ 1 แสนบาท โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ชำระคืนเงินต้นครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน
“การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นกู้เดิมจะได้รับสิทธิในการซื้อก่อน โดยจองซื้อได้ในจำนวนไม่เกินกว่าจำนวนหน่วยของหุ้นกู้ที่ตนถืออยู่ (สิทธิไม่เกิน 1 หุ้นกู้ใหม่ : 1 หุ้นกู้เดิม) มูลค่าไม่เกิน 2,000 ล้านบาท และบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นกู้ที่เหลือทั้งหมดให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ซึ่งไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน โดยหวังว่าการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนด้วยดีเช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB+” จากบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด ซึ่งสะท้อนความเข้มแข็งของเคทีซีในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2557 เป็นบวกทุกด้าน ด้วยกำไรสุทธิ 826 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 65% จากกำไรดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ) ของปีก่อน
สำหรับของกลยุทธ์การทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะออกแคมเปญบัตรเครดิตเข้าถึงสมาชิกเฉพาะกลุ่ม รุกหนักสินเชื่อพร้อมใช้ที่มากับคุณสมบัติใหม่ผ่อนชำระยาวนาน และบริการออนไลน์ที่ครบวงจร ควบคู่กับการควบคุมความเสี่ยง และคุณภาพหนี้ให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน
