“เคทีซี” ฮึดตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15-20% บัตรใหม่เพิ่ม 4 แสนใบ วางงบการตลาดกว่าพันล้านออกแคมเปญกระตุ้นต่อเนื่อง หวังจบปัญหาการเมืองยอดใช้จ่ายเด้งกลับ ชดเชยช่วงต้นปีที่ทรงตัว ส่วนผลประกอบการปี 56 กำไรทะลุพันล้านตามเป้า
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายทางธุรกิจมียอดบัตรเครดิตเพิ่ม 4 แสนใบ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่ม 15-20% และกำไรสุทธิเติบโต 20% นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าขึ้นสู่อันดับ 1 ของธุรกิจบัตรเครดิตใน 5 ปีด้วย ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวอาจจะค่อนข้างสูงในภาวะเศรษฐกิจ และภาคการบริโภคชะลอตัวลง แต่บริษัทเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะเข้มข้นขึ้นในปีนี้ ทั้งด้านสิทธิประโยชน์ และแคมเปญที่ตรงใจลูกค้า น่าจะทำให้ดำเนินธุริกจได้ตามเป้าหมาย
สำหรับภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์การเมืองนั้นเราก็ติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีก่อนที่เริ่มมีการชุมนุมทางการเมืองนั้น ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผ่านบัตรแต่อย่างใด แต่ในช่วงเดือนครึ่งที่ผ่านมาของปีนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทรงๆ ตัว ซึ่งหมายถึงเราทำไม่ได้ตามเป้าที่คาดว่าจะโต 15-20% แต่ก็จะยังคงเป้าหมายเดิมไว้ก่อน โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ยอดธุรกรรมต่างๆ น่าจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วย
“แม้ว่าเศรษฐกิจ การบริโภคจะชะลอ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะขยายตัวไม่ได้ อย่างสมมติว่าถ้าเราไปซื้อของในห้างสรรพสินค้า 1,000 บาท ถ้าเลือกได้จะจ่ายด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิต ส่วนใหญ่ถ้ามีก็จะเลือกจ่ายบัตร ดังนั้น ก็เรามีช่องทางที่จะโตได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้ และสิทธิประโยชน์ตรงใจหรือไม่ ซึ่งในปีนี้เคทีซีก็จะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับสูงมากขึ้น แต่ก็จะไม่ทิ้งกลุ่มแมสที่เป็นกลุ่มหลักของเคทีซีด้วย”
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) นั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้น และเอ็นพีแอลของบริษัทก็อยู่ในระดับต่ำกว่าอุตสาหกรรมอยู่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติบัตรมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว และการติดตามหนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเอ็นพีแอลของอุตสาหกรรมอยู่ในทิศทางขึ้น เคทีซีซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ก็คงหนี้ไม่พ้นที่เอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ก็เชื่อว่าด้วยปริมาณเงินสำรองของธนาคารที่มีอยู่ถึงกว่า 3 เท่าของเอ็นพีแอลจะเพียงพอรับรองการเพิ่มขึ้น
ปลื้มกำไรทะลุพันล้านตามเป้า
ด้านผลการดำเนินงานในปี 2556 นั้น บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,283 ล้านบาท เติบโต 403% จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 13,868 ล้านบาท จาก 12,622 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานรวม และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงถึง 20% และ 4%
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2556 บริษัทมียอดคงค้างสินเชื่อในส่วนของบัตรเครดิต 35,297 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 34,000 ล้านบบาท มีเอ็นพีแอล 2.2% ต่ำกว่าระบบที่ 2.3% มียอดบัตรเครดิตรวม 1.57 ล้านใบ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.53 ล้านใบ คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 8.4% มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 120,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 10.1% จากปีก่อนที่ 10.8%
ขณะที่สินเชื่อบุคคล ณ สิ้นปี 56 มียอดคงค้าง 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 1.3 หมื่นล้านบาท มีจำนวนลูกค้า 6.38 แสนราย จากปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 6.26 แสนราย มีเอ็นพีแอลที่ 1.5% ต่ำกว่าระบบที่ 3.7%
นายระเฑียร กล่าวอีกว่า โดยรวมๆ แล้วผลประกอบการปี 56 ในส่วนของผลกำไรก็ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็มีในบางตัวที่การเติบโตยังต่ำกว่าระบบ หรือต่ำกว่าปีก่อนหน้า เช่น การใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องมีการกลยุทธ์ที่จะต้องดำเนินการเชิงรุกมากขึ้น โดยในปีนี้จะเพิ่มงบทางการตลาดมากขึ้น หลังจากที่บริษัทมีกำไรเพียงพอต่อการขยายธุรกิจ และทำระบบต่างๆ ภายในองค์กรเรียบร้อยแล้ว
