ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดตลาดวันที่ 3 กันยายน 2557 ดัชนีตลาดหุ้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น มีการเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ล่าสุด เวลา 10.11 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,574.80 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุดเปลี่ยนแปลง +0.40% มูลค่าการซื้อขาย 4,928.29 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุดัชนีน่าจะเข้าสู่ช่วงปรับฐานระยะสั้น เพราะสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ความกังวลการขึ้นดอกเบี้ย และเร่งลด QE กลับขึ้นมาอีก ซึ่งส่งผลทางจิตวิทยาการลงทุนไปทั่วโลก ประกอบกับตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่า ณ PE ปัจจุบัน จึงน่าจะมีโอกาสทรงตัวถึงถอยลงมาได้เล็กน้อย โดยคาดว่าแรงขายจะมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังตลาด commodity ที่เมื่อคืนปรับถอยลงแรง
นักลงทุนน่าจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ข่าว คสช.เห็นชอบเพิ่มบทลงโทษทางแพ่งต่อการปั่นหุ้นยังอาจกระทบต่อจิตวิทยาการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มผลักดันดัชนีในรอบที่ผ่านมาให้เป็นลบ ซึ่งจะเพิ่มความผันผวนให้แก่ตลาดระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม เราประเมิน downside การปรับถอยจำกัดจากประเด็นบวกในประเทศ ทั้งการเปิดประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ใหม่วันที่ 9 ก.ย. เพื่อแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจ และความคาดหวังยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งสนับสนุนต่อการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ รวมถึงความคืบหน้าในโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเปิดประมูล หลังมีความชัดเจนแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง ที่ผ่าน EIA ไปแล้วเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี
กลยุทธ์การลงทุน : “เลือกเก็งกำไรรายตัว” ตลาดอาจแกว่งถอยสั้นจากปัจจัยต่างประเทศ แต่คาด downside จำกัดแถว 1,550-1,555 จุด ก่อนมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบ 1,590-1,600 จุด จากประเด็นบวกในประเทศ ส่วนพอร์ตกลางถึงยาว แนะนำ “ใช้จังหวะอ่อนตัวของดัชนีเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นนำตลาด เช่น ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์” ส่วน laggard อย่างสื่อสารและพลังงาน น่าสนใจในเชิงความเสี่ยงในการปรับถอยลงจำกัด
ด้านค่าเงินบาทเปิดที่ 32.16/18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มอ่อนค่าต่อคาดวันนี้เคลื่อนไหว 32.05-32.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงนี้มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในเอเชีย เนื่องจากช่วงนี้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุล เหตุเพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวออกมาดีกว่าที่คาด
โดยเมื่อเวลา 10.11 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,574.80 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุดเปลี่ยนแปลง +0.40% มูลค่าการซื้อขาย 4,928.29 ล้านบาท