LPN ลุยลงทุนบ้านแนวราบภายใต้แบรนด์ “บ้านลุมพินี” หวังขยายฐานลูกค้ากระจายความเสี่ยง ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากแนวราบ 10% ของพอร์ตภายใน 3 ปี ครึ่งปีหลัง 57 เปิด 3 โครงการ คาดปีนี้ 800 ล้านบาท ปี 58 ตั้งเป้าเปิด 5 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท รายได้ 1,000 ล้านบาท
นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการบริษัท พรสันติ จำกัด บริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า บริษัทหันมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา พัฒนาโครงการลุมพินี ทาวน์เพลส รัชโยธิน จำนวน 71 ยูนิต มูลค่า 387 ล้านบาท และโครงการลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ ลาดพร้าว สเตชั่น จำนวน 46 ยูนิต มูลค่า 451 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขายไปแล้ว
เมื่อปี 2556 เปิดขาย 2 โครงการ ในช่วงไตรมาส 3 ได้แก่ โครงการลุมพินี ทาวน์ เพลส สุขุมวิท 62 จำนวน 73 ยูนิต มูลค่า 470 ล้านบาท และโครงการ ลุมพินี ทาวน์ วิลล์ ศรีนครินทร์-แบริ่ง จำนวน 93 ยูนิต มูลค่า 342 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60%
ภายหลังจากพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมาแล้วกว่า 3 ปี และเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น บริษัทมีแนวคิดที่จะแยกแบรนด์สินค้าให้มีความแตกต่างไปจากคอนโดมิเนียม จึงได้เพิ่มชื่อแบรนด์ จาก “ลุมพินี” เป็น “บ้านลุมพินี” โดยแบ่งเป็นบ้านระดับราคาประมาณ 3 ล้านบาท แบรนด์ “บ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์” ระดับราคาประมาณ 5 ล้านบาท แบรนด์ “บ้านลุมพินี ทาวน์ เพลส” และบ้านระดับบนแบรนด์ “บ้านลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์”
“เชื่อว่าแนวโน้มตลาดแนวราบมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจากแผนการลงทุนขยายโครงข่ายคมนาคม โดยเฉาะรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งขยายแนวออกไปนอกเมืองมากขึ้น มีผลทำให้การขยายตัวของเมืองขยายออกไปรอบนอกมากขึ้น จะส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณของที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวมากขึ้น หลังตลาดแนวราบได้ถูกตลาดคอนโดมิเนียมแซงหน้าไปเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว แต่ปริมาณการเปิดตัวก็จะยังน้อยกว่าคอนโดมิเนียม”
นายจรัญ กล่าวต่อว่า บริษัทต้องการเพิ่มสัดส่วนฐานลูกค้าจากโครงการแนวราบ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนที่มีรายได้จากการขายโครงการคอนโดมิเนียมสูงถึง 96-97% โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด ภายใน 3 ปีหลังจากนี้ ซึ่งปัจจุบัน แอล.พี.เอ็น.มีรายได้รวมราว 14,000 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 700-800 ล้านบาท ส่วนในปี 2556 ที่ผ่านมา มีรายได้ 300 ล้านบาท ปี 2555 มีรายได้ 600 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทจะเพิ่มการเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น เฉลี่ยลงทุนปีละ 5 โครงการ ขนาดเนื้อที่ 20-30 ไร่ จำนวน 100 ยูนิตต่อโครงการ มูลค่าโครงการเฉลี่ย 500 ล้านบาท เน้นกลุ่มตลาดบ้านราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ คิดเป็นสัดส่วน 60-70% ของตลาดรวมทั้งหมด ขณะที่ตลาดบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนแค่ 10% โดยในปีหน้าบริษัทวางแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ 1,000 ล้านบาท
สำหรับในปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ บ้านลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนครินทร์ เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่ 7.3 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวน 27 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท โครงการบ้านลุมพินี สวนหลวง ร.9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 104 ยูนิต ขนาดเนื้อที่ตั้งแต่ 55 70 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 8-15 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท และโครงการบ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ พระราม 2 สุขสวัสดิ์ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เนื้อที่ 14 ไร่ จำนวน 170 ยูนิต มูลค่า 400 ล้านบาท คาดเปิดตัวในไตรมาส 4
