xs
xsm
sm
md
lg

“วี.เอ็ม.พี.ซี.” เพิ่มพอร์ตธุรกิจให้เช่า เนรมิตที่ดินกำนันเป๊าะผุดบิ๊กโปรเจกต์ 6 พันล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปริญญา เธียรวร
เปิดแผนธุรกิจ “วี.เอ็ม.พี.ซี.” วางเป้าพัฒนาโครงการปีละกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมเปิดแบรนด์ “แอสเทรา” รุกตลาดทาวน์เฮาส์เสริมฐานลูกค้าบ้านเดี่ยวระดับบน เผยเตรียมผุดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์-โรงแรมระดับ 4 ดาว มูลค่า 6,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 11 ไร่ ในศรีราชา ซื้อจากกำนันเป๊าะ อดีตเคยเป็นที่ดินของตระกูลเจ้าสัวดัง

นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ นับจากนี้จะเน้นการพัฒนาปีละประมาณ 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2558 จะเป็นการรุกพัฒนาทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นครึ่ง ระดับบนครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ “แอสเทรา” จากเดิมที่เคยพัฒนาแต่บ้านเดี่ยว ระดับบน ซึ่งขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว ย่านพระราม 2 พื้นที่ 28 ไร่ ขนาดเริ่มต้นที่ 18 ตารางวา จำนวนประมาณ 200 ยูนิต มูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท

“การที่เราขยายฐานธุรกิจมาพัฒนาทาวน์เฮาส์ เพราะเป็นความต้องการของลูกค้า ที่ไม่มีกำลังซื้อบ้านเดี่ยวระดับบนได้ แต่สามารถซื้อทาวน์เฮาส์ระดับบนได้ เพราะปัจจุบันมีครอบครัวขยายมากและทุกครอบครัวต้องการบริเวณให้ลูกๆ อีกทั้งทาวน์เฮาส์ยังสามารถปรับเป็นโฮมออฟฟิศได้เช่นกัน”

ส่วนอีก 1 โครงการจะเป็นการขยายฐานธุรกิจให้เช่า จากเดิมที่มีธุรกิจอพาร์ตเมนต์,เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และโรงแรมในย่านสีลมและสาทร อยู่แล้ว โดยได้ซื้อที่ดินจำนวน 11 ไร่เศษ จากกลุ่มนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ (เดิมเป็นที่ดินของบริษัท ศรีนครแลนด์ จำกัด ของตระกูลเตชะไพบูลย์ และประสบปัญหาทางการเงินและถูกฟ้องล้มละลาย โดยตีทรัพย์ชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน) ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา มีแผนจะพัฒนาเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และโรงแรม ระดับ 4 ดาว รวมกว่า 1,000 ห้องพัก แบ่งการพัฒนาเป็น 4 เฟสๆ ละ 1 อาคาร โดยอาคารแรกในเฟส 1 จะสูงกว่า 40 ชั้น ขนาดห้องตั้งแต่ 35 ตารางเมตรขึ้นไป คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการสนับสนุนเงินลงทุนจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 50% ความคืบหน้าอยู่ในระหว่างการออกแบบและยื่นขอ EIA คาดว่า จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2558 และแล้วเสร็จในปี 2560 คาดว่า จะถึงจุดคุ้มทุนภายในระยะเวลา 10 ปีเศษ

“การที่เราเลือกทำเลศรีราชา เพราะเป็นการรองรับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เมื่อมีการก่อสร้างโรงงานแล้วเสร็จ ดีมานด์ก็จะทะลักตามมา โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ของญี่ปุ่น รวมไปถึงในปีหน้าจะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ยิ่งจะทำให้มีอัตราการเข้าพักเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และโรงแรมมากขึ้น โดยปัจจุบันราคาที่ดินในย่านศรีราชามีการปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2556 ถึง 50% คือจาก 2 แสนบาท/ตารางวา เป็น 3-4 แสนบาท/ตารางวา”

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “แอสเทรา ไพรด์ @ พระราม 2” ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น รวม 47 ยูนิต ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 57-68 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นที่ 24.9-32.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,300 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันขายไปได้แล้วประมาณ 15% หรือ 7 ยูนิต มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่า จนถึงปลายปีนี้จะมียอดขายที่ 500 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ในปี 2558

“โดยปกติจะมี ลูกค้าที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ แอสเทรา ไพรด์ @ พระราม 2 เฉลี่ยที่ 90-100 รายต่อเดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดบ้านในระดับไฮเอนด์ไม่ได้อ่อนไหวตามภาพรวมเศรษฐกิจ แต่กลับมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ซื้อมีความพร้อม เรื่องการเงินอยู่แล้ว ต่างจากกลุ่มกำลังซื้อในระดับ 5 ล้านบาท ที่ดูจะเติบโตลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาประมาณ 5-10% ส่วนตลาดบ้านเดี่ยวที่ติดริมถนนพระราม 2 นั้น ยังถือเป็นตลาด real demand กล่าวคือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออยู่จริง มีการซื้อเก็งกำไรเป็นส่วนน้อย และที่ย่านดังกล่าวเป็นที่ต้องการสืบเนื่องมาจาก ทำเลที่เป็นจุดเชื่อมระหว่าง โซนอุตสาหกรรมที่หลากหลายและใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และมีการกำหนดทิศทางในการพัฒนาระบบเมือง และการคมนาคมที่เอื้อสู่การเดินทางและการขยายเมืองในอนาคตอย่างชัดเจน "


กำลังโหลดความคิดเห็น