“รอยส์ร้อยสร้อย” ฝีมือคนไทย การันตีผลงานมงกุฎนางงาม

ถ้าพูดถึงเครื่องประดับแฮนด์เมดแล้วละก็ วันนี้ หลายคนคงจะได้รู้จักหนุ่มคนนี้ "วรากร กล้าหาญ" เจ้าของแบรนด์ royroysoy handmade jewelry (รอยส์ร้อยสร้อย) พร้อมชื่อที่ต่างชาติ ตั้งให้ คือ มิสเตอร์รอยส์ นั่นเอง 

หลายคนคงสงสัยว่า ต่างชาติได้มารู้จัก และตั้งฉายา มิสเตอร์รอยส์ได้อย่างไร "วรากร" เล่าอย่างภาคภูมิใจ ว่า สินค้าร้อยสร้อยของเขาไม่ธรรมดา เพราะได้ลูกค้าชาวต่างชาติตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจเลยทีเดียว งานนี้ฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอน มาทำความรู้จัก รอยส์ ร้อยสร้อย กันต่อเลย

วรากร เล่าถึงที่มาของรอยส์ ร้อยสร้อย ว่า เกิดขึ้นมาจากความยากจน มีเงินเดือนเพียงแค่หมื่นกว่าบาท ไม่เพียงพอสำหรับช่วยเหลือครอบครัว จึงได้เริ่มมองหารายได้เสริม พอดีในช่วงนั้นประมาณปี 2540 เศรษฐกิจฟองสบู่แตก มีกลุ่มไฮโซเปิดท้ายขายของกัน และได้เห็นมีคนนำสร้อยหินสีมาขาย ก็เลยเกิดไอเดียว่าน่าจะลองซื้อเครื่องประดับและเสื้อผ้ามาลองขายดูบ้าง แรกไปรับสินค้า มาเปิดท้ายขายก่อน ซึ่งไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะมีคู่แข่งขายเหมือนกันหลายราย ตัดราคากันเอง

"สุดท้าย ก็ต้องนำมาลดราคาขายถูก ด้านหน้าตึกสำนักงานที่ผมทำงาน ชวนเพื่อนมาช่วยกันขาย ก็มีพี่ที่ทำงานเดียวกันมาเป็นลูกค้า เขาบอกกับเราว่า แบบที่เราขายซ้ำกับที่ขายทั่วไป อยากให้ผมช่วยออกแบบและร้อยให้ใหม่ ซึ่งลองกลับไปทำขายดู ปรากฎว่า ลูกค้าให้การตอบรับดี เพราะเป็นแบบที่ไม่เคยมีใครทำขายมาก่อน หลังจากนั้น ผมก็ไปเรียน ด้านการออกแบบเครื่องประดับ เพิ่มเติม และได้คิดค้นขั้นตอนการทำให้ง่ายขึ้นและได้รูปแบบที่หลากหลายขึ้น สุดท้าย หาเทคนิคการร้อยสร้อยด้วยโครงลวดถัก ซึ่งเทคนิคตรงนี้ ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นมาก ปัจจุบันนอกจากจะทำขายเองแล้วก็ยังได้เปิดสอนเทคนิคการร้อยสร้อยด้วยโครงลวดถักให้กับผู้สนใจด้วย"

วรากร เล่าต่อว่า หลังจาก ได้เริ่มเปิดร้านอย่างเป็นจริงเป็นจัง ลาออกจากงานประจำ มาเปิดร้านที่สวนลุมไนท์บาซาร์ ตรงจุดนี้เองเป็นจุดเปลี่ยนที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เพราะมีลูกค้าต่างประเทศ มาเดินชอปปิ้งที่นี่กันเยอะ และสินค้าร้อยสร้อยของเราก็ได้รับการตอบรับดีมาก ได้ออร์เดอร์ลูกค้าต่างประเทศเข้ามาเรื่อยๆ เช่น ประเทศสิงคโปร์, ออสเตรเลีย และยังคงเป็นคู่ค้าที่ดีกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังมีผลงาน โดยเป็นดีไซเนอร์รับจ้างออกแบบเครื่องประดับให้กับบริษัทเครื่องประดับที่มาออกแสดงสินค้าในงาน Bangkok Gems and jewelry fair "

พอถามถึงรายได้ ทางเจ้าของผลงาน บอกว่า เคยมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมากถึงเดือนละ100,000 บาท

“จากที่มีรายได้ไม่พอใช้จ่าย จนวันนี้สามารถซื้อบ้านให้กับตัวเองและครอบครัวได้ จากน้ำพักน้ำแรงในการร้อยสร้อยนี่แหละ” แต่หลังจากที่ตลาดสวนลุมไนท์บาซาร์ปิดตัวลง รายได้จากหน้าร้านหายไป ทำให้ต้องหันมาหาช่องทางขายใหม่ โดยการร่วมออกงานแสดงสินค้ากับหน่วยงานราชการที่จัดขึ้น และการขายผ่านเว็บไซต์ แต่รายได้ก็ยังไม่มากเท่าช่วงแรก ส่วนหนึ่งเพราะมีคู่แข่งเยอะด้วย ทำให้ระยะหลังมีรายได้อยู่ที่ประมาณเดือนละ 40,000 - 50,000 บาท เท่านั้น และโดยส่วนตัวระยะหลังเน้นการสอนมากกว่า การตั้งหน้า ตั้งตาขายอย่างเดียว

สำหรับรูปแบบของเครื่องประดับที่ทำจำหน่าย จะแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่ สร้อยคอ กำไร ต่างหู แหวน ซึ่งแต่ละแบบ ราคาไม่เหมือนกัน เริ่มต้นที่หลักร้อยบาทถึงหลักหมื่นบาท แถมยังมีแบบเป็นชุดขายด้วย ซึ่งวัสดุหลักที่ใช้จะเป็นหินธรรมชาติ บางส่วนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และหาวัสดุภายในประเทศ ด้วย ส่วนรูปแบบที่ได้รับความนิยม มีหลายตัว อาทิ หินปะการังแดง และjasper มีทุกสี ยกเว้นสีดำ เป็นต้น

ส่วนอีกหนึ่งผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้เจ้าของฉายามิสเตอร์รอยส์ คือ ชุดกำไลถักลวดเงิน ด้วยหินอเมทีสต์ ที่ออกแบบให้มีความเป็นไทยด้วยการนำพลอยของต่างประเทศมาผสมผสานกับเครื่องเงินบ้านเรา ผลงานชิ้นนี้ การันตีได้จากการรับคัดสรรเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ 4 ดาว OTOP Product Champion (OPC) และ OTOP Selected สนนราคาอยู่ที่ 19,000 บาท

วรากร บอกด้วยว่า เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีโอกาสออกแบบเครื่องประดับให้กับงานใหญ่หลายๆ งาน อาทิ การได้ร่วมออกแบบมงกุฎให้เวที มิสสิงคโปร์ ยูนิเวิร์ส และเวทีมิสสิงคโปร์ เวิล์ด และได้มีการพัฒนารูปแบบใหม่หันมาใช้เครื่องประดับที่มีมูลค่า ทำให้ต้องลงทุนสูงขึ้น ครั้งนี้ ได้รับการช่วยเหลือ จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เข้ามาช่วยให้สินเชื่อเงินกู้จำนวนหนึ่ง และได้เข้าร่วมอบรมการออกแบบโลโก้และอบรมอื่นๆ ที่ทางเอสเอ็มอีแบงก์จัดขึ้น

"ปัจจุบันคู่แข่งในธุรกิจเครื่องประดับมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น เราจึงต้องหนีด้วยการใช้วัตถุดิบของแท้ที่มีคุณภาพ และการออกแบบให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าให้กับลูกค้าด้วยการควบคุมมาตรฐานให้เครื่องประดับสวยได้ระดับเดียวกันทุกชิ้น ด้วยการมีป้ายข้อมูลกำกับทั้งในเรื่องที่มาของสินค้าและน้ำหนักของเงิน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น โอทอปเป็นแบรนด์ใหญ่เมื่อนำแบรนด์โอทอปมาบวกกับแบรนด์เรา ทำให้สินค้าของเราขายดีมาก " วรากร กล่าวเสริม

โทร.08-9990-3011 ,www.facebook.com/royroysoy

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *