xs
xsm
sm
md
lg

“อี๊ดไม่ผ่าน!” ประโยคกระแทกใจ “ฟุตปาธแบนด์” อันเนื่องมาจากเพลงเชลียร์รัฐประหารของ “แอ๊ดบาว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปกอัลบั้มล่าสุดของ ฟุตปาธแบนด์
โดย...ณขจร จันทวงศ์

คืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมาบรรยากาศ ณ ร้านอาหารสไตล์เพลงเพื่อชีวิตชื่อ “ค.ฅน ค.โฟล์ค” กลางนครหาดใหญ่ถูกขับกล่อมด้วยเสียงประสานของเชลโลและฟลุต ในท่วงทำนองและลีลาอันพลิ้วไหวไพเราะจับใจผู้ฟังผู้ชม โดยเฉพาะแฟนคลับของวง “ฟุตปาธแบนด์” หรือ “ฟุตปาธแฟมิลี่” ครอบครัวดนตรีแนวโฟล์คนำโดย “อี๊ด ฟุตบาธ” ตามด้วย “ปิ๊ค” และ “เปรียว” สองสาวแสนสวยเจ้าของเสียงประสานของเชลโลและฟลุตอันไพเราะ

ฟุตปาธแฟมิลี่ เป็นวงดนตรีที่เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ (www.manager.co.th) บันทึกเป็นบทสัมภาษณ์ไว้ (http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000162132) มีใจความตอนหนึ่งว่า

"แม้ชื่อชั้นของ อิทธิพล วาทะวัฒนะ หรือน้าอี๊ด ฟุตปาธ จะไม่โด่งดังในวงการเพลงเพื่อชีวิตเท่าบรรดาขาใหญ่อย่าง น้าหงา น้าแอ๊ด น้าหว่อง น้าหมู หรือ พี่ปู ที่เริ่มจะกลายเป็นน้าแล้ว แต่น้าอี๊ด ฟุตปาธ ก็จัดเป็นขุนพลเพลงเพื่อชีวิตในระดับบิ๊กเนมคนหนึ่ง

เขาคนนี้เติบโตมาจากดนตรีเปิดหมวก ณ ท้องสนามหลวงเมื่อราวปี พ.ศ. 2527 ยุคนั้น อี๊ด ฟุตปาธ สร้างความฮือฮาด้วยการทั้งร้องทั้งเล่นดนตรีที่ไม่ธรรมดาเอามากๆ เพราะเขาคนเดียวสามารถเล่นดนตรีเป็นเพลงเพราะๆ เพลงสนุกๆ ไปพร้อมๆ กันด้วยเครื่องดนตรีหลากหลายชิ้น

ต่อมาในปี พ.ศ.2530 ออกอัลบั้มใต้ดินชุด “ไกด์สนามหลวง” ออกมามี น้าหว่อง คาราวาน มงคล อุทก เป็นโปรดิวเซอร์ สร้างชื่อเสียงได้ในระดับหนึ่ง

พอเริ่มมีชื่อเขาถูกแกรมมี่มาฉกตัวดึงเข้าค่ายใหญ่ทำอัลบั้มชุด “บ้านนอกซอกตึก” ออกมาในปี พ.ศ.2532 แต่ประทานโทษ งานนี้แป๊ก!!! ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แม้จะมีทุนหนา แต่ว่าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเพลงออกมาประสบความสำเร็จเสมอไป

น้าอี๊ดจึงต้องกลับเข้าสู่วิถีดนตรีใต้ดินอีกครั้ง ออกอัลบั้ม“น้ำพักน้ำแรง” ออกมาในปี พ.ศ.2534 มีเพลง “จดหมายถึงพ่อ” เป็นไฮไลท์ โดยได้ 2 ลูกสาวตัวน้อยอย่าง น้องเปรียว อายุ 5 ขวบ และ น้องปิ๊คอายุ 3 ขวบกว่ามาช่วยร้องด้วยสรรพสำเนียงน่ารัก แต่ได้อารมณ์คิดถึงพ่อจากแดนไกลที่กินใจมาก

และเพลงจดหมายถึงพ่ออันโด่งดังเป็นอมตะนี่เองที่ทำให้ อี๊ด ฟุตปาธ กลายเป็นหนึ่งในบิ๊กเนมแห่งวงการเพลงเพื่อชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้

หลังจากนั้น อี๊ดมีผลงานออกมาอีก 2 ชุดคือ “คืนสู่บ้าน” และ “ดูนี่ดูนี่สิ” ที่นำลูกสาว 2 คนมาร่วมเล่นดนตรีด้วย ซึ่งต้องถือว่าน้าอี๊ดแกเป็นพ่อที่วางรากฐานทางดนตรีให้กับลูกสาว 2 คนได้อย่างยอดเยี่ยม

เพราะวันนี้เมื่อลูกสาวทั้งคู่โตเป็นสาว (สวย) แล้ว พวกเธอมีฝีไม้ลายมือในทางดนตรีที่จัดอยู่ในประเภท(เยาวชน) มือต้นๆ ของเมืองไทย โดยน้องเปรียว(สรีวันท์) เป็นมือไวโอลิน น้องปิ๊ค(สมรรถยา) เป็นมือเชลโล ทั้งคู่เป็นนักดนตรีในวง ดร.แซ็ก แชมเบอร์ ออร์เคสตร้า (ก่อตั้งโดย รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข) วงดนตรีเยาวชนไทยฝีมือเทพที่คว้ารางวัลในระดับโลกมาแล้วมากมาย

และด้วยฝีไม้ลายมือของน้องปิ๊ค น้องเปรียว ที่ถือว่าจัดอยู่ในขั้นไม่ธรรมดา ทำให้ผลงานเพลงชุดใหม่ “เป็นตัวเอง” ของน้าอี๊ดที่ห่างหายจากการออกอัลบั้มไปนาน ไม่ธรรมดาไปด้วย เพราะงานชุดนี้น้าอี๊ดแกมาไม่ได้ฉายเดี่ยว หากแต่มาในนาม “ฟุตปาธ แบนด์” กับสมาชิก 3+1 ประกอบด้วยน้าอี๊ดร้องนำ เล่นกีตาร์ เป่าเม้าออร์แกน, น้องเปรียว เล่นไวโอลิน, น้องปิ๊กร้องนำ เล่นเชลโล ร่วมด้วยฮิเดกิโมริ สมาชิก+1 ที่เหมือนกับเป็นสมาชิกคนที่ 4 ของฟุตปาธแบนด์ไปกลายๆ

สำหรับน้าฮิเดกิถือเป็นแกนหลักสำคัญในผลงานชุดนี้ เพราะนอกจากจะรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์แล้ว ยังร่วมเล่นดนตรีทั้งเล่นเบส แบนโจ เล่นกีตาร์ แอคคอเดี้ยน รวมไปถึงร่วมแต่งทำนองในอีกหลายเพลง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของไอเดียให้เจ้าของผลงานเขียนบันทึกบอกเล่าความในใจไว้ในปกอัลบั้ม

งานชุดนี้ยังมีศิลปินรับเชิญอีกคนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ที่มาโชว์ลีลาพญาขลุ่ยแห่งสยาม แต่มันก็มีเรื่องให้ผมอดแปลกประหลาดใจไม่ได้ว่า ทำไม? หลังจากวงคาราบาวชุดรุ่งโรจน์แยกวง เสียงขลุ่ยของ อ.ธนิสร์เดินทางไปปรากฏในบทเพลงของขุนพลเพลงเพื่อชีวิตมากมาย แต่ไฉนกลับไม่มีสรรพเสียงขลุ่ยของแกในงานเดี่ยวของ น้าแอ๊ด คาราบาว เลย”

แสง ธรรมดา บนเวที มวลมหาประชาชน
นั่นคือประวัติคร่าวๆ ของน้าอี๊ดและวงฟุตปาธแบนด์ ซึ่งเป็นที่มาที่ไปให้เป็นที่รับทราบว่าเหตุใดศิลปินวงนี้จึงเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงจำนวนมาก รวมทั้งแฟนเพลงทางภาคใต้หลายคนสะสมอัลบั้มของศิลปินวงนี้ครบทุกชุด

“โข่ง” เจ้าของร้าน ค.ฅน ค.โฟล์ค ก็เช่นกันเขาเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบศิลปินวงนี้ จึงติดต่อให้มาทำการแสดงที่ร้าน และนี่นับเป็นโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งที่แฟนเพลงของวงฟุตปาธแบนด์ จะได้ชื่นชมและรับฟังบทเพลงของศิลปินในดวงใจวงนี้อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง

“ไม่คิดว่าแฟนๆ น้าอี๊ด ฟุตปาธ จะเหนียวแน่นขนาดนี้ บางคนขับรถมาจากตากใบ เขาเห็นเราโฆษณาในเฟชบุ๊กว่า อี๊ด ฟุตปาธ จะมาเล่น ลงทุนขับรถมาไกล เพราะเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ มีอัลบั้มของน้าอี๊ดครบทุกชุด”

และการแสดงของฟุตปาธแบนด์ในคืนนั้นน่าจะบอกได้เลยว่า “ไม่ทำให้ใครผิดหวัง” เพราะผลงานเพลงทุกเพลงทั้งของวงฟุตปาธแบนด์ ที่น้าอี๊ดเขียนเอง ร้องเอง หรือที่น้องปิ๊ค น้องเปรียว เป็นผู้ขับร้องล้วนสร้างความประทับใจเรียกเสียงปรบมือจากแฟนเพลงได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้อี๊ด ฟุตปาธ ยังนำผลงานเพลงเพื่อชีวิตของศิลปินชื่อดังอีกหลายคนมาขับร้องในสไตล์ของฟุตปาธแบนด์ ช่วยเพิ่มสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ฟังผู้ชมได้เป็นอย่างดี เขาจบการแสดงช่วงเพลงจังหวะมันๆ ด้วยเพลง “วณิพก” ของศิลปินชื่อดังที่แทบไม่มีใครไม่รู้จัก
บรรยากาศการปแสดงที่ร้าน ฅ.ฅน ฅ.โฟล์ค คืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
“อี๊ด ไม่ผ่าน!” ประโยคนี้ดังขึ้นทันทีหลังจากเพลงวณิพกจบลง

“อี๊ด เล่นแบบนี้ไม่ผ่าน” เขาพูดซ้ำอีกครั้ง ได้ยินกันทั้งร้าน

“อี๊ด เล่นเพลงตัวเองดีอยู่แล้ว แต่เล่นเพลงของศิลปินที่คอยฉกฉวยโอกาสแบบนี้ ไม่ผ่าน!” แฟนเพลงสำทับ

สร้างความงุนงงให้กับ “อี๊ด ฟุตปาธ” รวมทั้งน้องปิ๊คและน้องเปรียวไม่น้อย และก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย “โข่ง” เจ้าของร้านรีบเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ และพบว่าเจ้าของประโยค “อี๊ด ไม่ผ่าน!” นั่นก็คือแฟนคลับฟุตปาธแบนด์ที่ดั้นด้นมาไกลจากชายแดนใต้กว่า 300 กิโลเมตร เพื่อมาให้กำลังใจศิลปินที่เขาชื่นชอบนั่นเอง

สอบถามได้ความว่า เขาผิดหวังที่น้าอี๊ดร้องเพลง “วณิพก” เพราะตัวเขาเองมองว่าเจ้าของผลงานเพลงชื่อดังเพลงนี้ ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงศิลปินชื่อดังระดับประเทศผู้นั้น ห่างเหินและเมินเฉยกับการช่วยเหลือประชาชนที่ลุกขึ้นต้านระบอบทักษิณ แต่กลับมีผลงานเพลงใหม่ “นาวารัฐบุรุษ” ออกมาทันทีหลังรัฐบาลระบอบทักษิณถูกทำรัฐประหาร โดยของการเอาอกเอาใจ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คสช. ซึ่งเป็นแบบนี้มาแล้วถึงหลายครั้งหลายครา

คนที่ได้ยินต่างได้แต่นิ่งเงียบกับเหตุผลข้อนี้ ขณะที่ “แสง ธรรมดา” ศิลปินผู้เข้าร่วมกับการต่อสู้กับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนเสมอมานับแต่ยุคเดือนตุลามหาวิปโยค พฤษภาทมิฬ มาจนถึงมวลมหาประชาชนยุคปัจจุบันก็ยังคงร่วมเคลื่อนไหวกับภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นเพื่อนกับ “อี๊ด ฟุตปาธ” และศิลปินชื่อดังเจ้าของเพลง “วณิพก” นั้นเป็นอย่างดี เขามองปรากฏการณ์นี้ว่า

“เป็นเรื่องธรรมดาที่แฟนเพลงคนหนึ่งที่มีความคาดหวังต่อศิลปินที่เขาชื่นชอบจะแสดงออกมาแบบนั้น หลังจากศิลปินทำให้ตัวเขารู้สึกว่าเขาผิดหวัง เท่าที่เข้าใจคือ เขาผิดหวังที่แอ๊ดไม่ออกมาร่วมชุมนุมกับศิลปินคนอื่นๆ เช่น น้าหงา น้าซู ที่ออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวชุมนุมล้างระบอบทักษิณ เขาจึงไม่พอใจ และเขาเองก็ชอบอี๊ด ฟุตปาธ มากๆ เขาเลยผิดหวังที่มาได้ยินอี๊ดเล่นเพลงของศิลปินที่ทำให้เขาผิดหวังมาแล้วก่อนหน้านี้”

แสง ธรรมดา บอกว่า ผู้สนใจปัญหาการเมืองเป็นแฟนเพลงส่วนใหญ่ที่นิยมฟังเพลงเพื่อชีวิต เพราะเนื้อหาของเพลงเน้นไปที่การติดอาวุธทางความคิดให้กับผู้ฟัง ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์เรียกร้องทางการเมืองที่กำลังเป็นอยู่ เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นเรื่องจริงจัง ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์หนึ่ง แฟนเพลงจะแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อถามถึงจุดยืนของศิลปินที่เขารักและชื่นชอบ

“ผมคิดว่าแม้เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล แต่ศิลปินทุกคนที่จะมีงานแสดงทางภาคใต้ก็คงต้องไปทบทวน เริ่มตั้งแต่จุดยืน รวมถึงบทเพลงที่พวกเขาจะนำมาเสนอให้กับผู้ฟัง เพราะเท่าที่ผ่านๆ จนถึงตอนนี้หลายคนน่าจะเข้าใจแล้วว่า คนทางภาคใต้ส่วนใหญ่มีจุดยืนอย่างไรในทางการเมืองและในทางการฟังเพลง เพื่อที่การแสดงครั้งต่อไปจะได้ไม่ติดขัดและจบลงอย่างราบรื่นสวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ว่าศิลปินคนไหนต่างก็ปรารถนาจะให้เป็นเช่นนั้น”

สำหรับ น้าอี๊ด ฟุตปาธ เขาใช้เวลาทบทวนไม่นาน ก่อนจะยืนยันกับแฟนเพลงในคืนนั้นว่า

“คราวหน้าถ้ามาเล่นทางใต้อีก ผมจะเล่นแต่เพลงของตัวเองกับศิลปินที่คนทางนี้ชื่นชอบ”

ส่วนเพลงวณิพกกับเพลงดังๆ อีกหลายเพลงของวงดนตรีชื่อดังวงนั้น แกคงจะไม่นำมาร้องที่ภาคใต้ไปอีกนาน หรืออาจจะไม่นำมาร้องอีกเลย แกคงเข็ดแล้วกับประโยคที่ว่า

“อี๊ดไม่ผ่าน!”

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น