คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
หลังวง“คาราบาว”โด่งดังพุ่งพรวดจากเพลง “วณิพก” ในอัลบั้มชุดที่ 3 คือ “วณิพก” ที่ออกมาในต้นปี พ.ศ. 2526
วงหัวควายฉวยโอกาสน้ำขึ้นให้รีบตักตามสุภาษิตไทย ออกอัลบั้มที่ 4 “ท.ทหารอดทน” ตามมาติดๆในปีเดียวกัน
คาราบาวในชุดนี้ จากเดิมที่มี สมาชิก 3 คน คือ “น้าแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล”, “น้าเล็ก - ปรีชา ชนะภัย” และ “น้าเขียว - กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร” ได้เพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 2 พะหน่อ คือ “น้าเป้า - อำนาจ ลูกจันทร์” มือกลอง และ “ไพรัช เพิ่มฉลาด” มือเบส(ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
นอกจากนี้วงคาราบาวยังมีสมาชิกสมทบที่บางคนมีส่วนร่วมทั้งในห้องอัดและเวทีคอนเสิร์ตคือ “น้าหมู-พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ”, “จิตรกร บัวเนียม”, “เอนก รุ่งเรือง” และ 2 นักดนตรีคนสำคัญคือ “เทียรี่ เมฆวัฒนา” และ “อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี” ที่ในชุดถัดไปคือ “เมดอินไทยแลนด์”(2527) ได้กลายมาเป็นสมาชิกถาวรของคาราบาวและร่วมสร้างตำนานอันลือลั่นของวงหัวควายจนกลายเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีอมตะแห่งวงการดนตรีไทย
การที่คาราบาวมีสมาชิกเพิ่มและมีทีมนักดนตรีมาช่วยมากขึ้น ทำให้ดนตรีในชุด ท.ทหารอดทน มีความหลากหลายและมีสีสันมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเครื่องเป่าที่ได้ อ.ธนิสร์มาฝากฝีปากเจ๋งๆเอาไว้
สำหรับบทเพลงในชุด ท.ทหารอดทน มีทั้งหมด 10 บทเพลงด้วยกัน เป็นไปตามมาตรฐานของยุคที่เทปคลาสเซ็ทยังครองโลก โดยบทเพลงส่วนใหญ่เขียนโดยแอ๊ด คาราบาว ซึ่งเริ่มต้นเปิดประเดิมกันด้วยเพลง “ท.ทหารอดทน” ที่ถือว่ามีไอเดียแปลกใหม่ต่อการทำเพลงในยุคนั้นไม่น้อย
เพลงนี้มีการนำลีลาของเพลงมาร์ชสลับกับการพูด(แร๊พแบบไทยๆ)มาผสมใส่ ผ่านลีลาดนตรีสนุกๆโดดเด่นไปด้วยเสียงกลองมาร์ช ขลุ่ยฝรั่ง(รีคอร์ดเดอร์) และแบนโจ กับเนื้อหาพูดถึงชีวิตความยากลำบากของ ท.ทหารชั้นผู้น้อย ขณะที่ ท.ทหารชั้นผู้ใหญ่ กับแก่งแย่งช่วงชิงกันไขว่คว้าในยศฐาตำแหน่ง
และด้วยเนื้อหาที่ฟังแล้วแสลงใจผู้มีอำนาจบางคนในยุคนั้น เพลง ท.ทหารอดทน จึงถูกแบน นับเป็นเพลงที่ 2 ของคาราบาวที่ถูกแบน หลังจากเพลง “กัญชา” ในชุด แป๊ะขายขวด
เท่านั้นยังไม่พอคาราบาวยังมีอีกหนึ่งเพลงที่ถูกแบนตามมาติดในชุดนี้คือ “ทินเนอร์” เพลงร็อกโจ๊ะๆ เนื้อหาดีทีเดียว สะท้อนเรื่องราวของเด็กติดทินเนอร์ที่เป็นยาเสพติดอันตรายยอดฮิตในยุคนั้น แต่เพลงนี้ก็ถูกแบนด้วยเหตุผลว่าพูดถึงยาเสพติด
ถัดมาเป็นเพลง “ผู้เฒ่า” อีกหนึ่งเพลงดังเนื้อหาดีแต่ฟังเศร้าใจกับเนื้อหาสะท้อนความจริงถึงวิถีคนเฒ่าคนแก่ในบ้านเรา โดยมีท่อนฮุกเด็ดๆฟังสะดุดหู สะกิดใจ ในอารมณ์ชวนรันทด คือ “...ผู้เฒ่าเอย ถึงเนื้อหนังหย่อนหยาน ถ้าสมบัติมโหฬาร ลูกหลานมาเอาใจ นะ ผู้เฒ่าเอยถึงเนื้อหนังเหี่ยวย่น ถ้าสมบัติมากล้น ยังพอมีคนเอาใจ...”
ต่อกันกับ “ขี้เมาใจดี”(ถึกควายทุยภาค 4) กับบทเพลงคันทรีร็อกสบายๆ เล่าเรื่องโหนกเข้ากรุง ใช้ชีวิตขี้เมาดูช้างดูลิงในเขาดินกับเนื้อหากวนๆ เมาแล้วสงสัยว่าจับสัตว์มาขังทำไม เป็นการผ่อนคลายอารมณ์จากเนื้อหาเครียดๆของถึกควายทุยใน 3 ภาคแรก
“สวรรค์บ้านนา” เนื้อหาว่าด้วยหนุ่ม-สาวชาวชนบทที่มาจำใจมารับจ้างขายแรงงานอยู่ในเมืองกรุงฯ ครั้นเมื่อลมร้อนโรยรา ฝนฟ้ามาเยือน เข้าสู่ฤดูทำนา หนุ่ม-สาว เหล่านั้นได้เวลากลับคืนถิ่นไปทำนา สัมผัสความชุ่มฉ่ำเขียวขจี พบเจอเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง นับเป็นช่วงเวลาทองของสวรรค์บ้านนา ก่อนที่ฤดูทำนาจะสิ้นสุด พวกเขาต้องทิ้งสวรรค์บ้านนาเข้ามาขายแรงงานในเมืองกรุงฯอีกครั้ง ให้ผู้เฒ่าเฝ้าอู่บ้านเรือนแทน นับเป็นวัฏจักรของชาวชนบทผู้มาเข้าใช้แรงงานในเมืองหลวงของยุคนั้น
เพลงนี้น้าแอ๊ดร่วมกันแต่งกับ “สุรสีห์ ผาธรรม” มาในกลิ่นดนตรีพื้นบ้านสนุกๆ ภาษาเรียบง่ายแต่มีสัมผัสสวยงาม อีกทั้งยังฟังแล้วเห็นภาพดีทีเดียว
มาถึงแทรคที่ 6 หรือเพลงแรกของเทปในหน้าสองกับเพลง “ตุ๊กตา” เพลงช้าๆหวานๆ เด่นด้วยเสียงฮาร์โมนิก้าฝีปากน้าแอ๊ด สอดประสานด้วยเสียงสไลด์กีตาร์เท่ๆ เพลงนี้เล่าเรื่องชีวิตผ่านมุมมองของตุ๊กตาในวัยเด็ก ซึ่งตอนหลังเพลงตุ๊กตาได้โอนถ่ายให้น้าเทียรี่มารับช่วงร้องแทนเวลาเล่นคอนเสิร์ต เพราะเข้ากับเสียงนุ่มๆของน้าแก
ต่อกันกับเพลงสำคัญ “คนเก็บฟืน” เพลงนี้เป็นเพลงที่แจ้งเกิดให้กับน้าเล็กอย่างเต็มตัว หลังในชุด 2 ชุด 3 ได้เคยฝากเสียงร้องไว้กับเพลง “เมากีตาร์”, “ลอยหาย” และ “จับกัง” แต่ว่าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้
เพลงคนเก็บฟืนน้าแอ๊ดแต่ง น้าเล็กร้อง เพลงนี้บางคนอาจจะฟังงงๆและสงสัยว่าพ่อหนุ่มคนนี้ไม่ทำอะไร วันๆเอาแต่เก็บฟืน ต้มน้ำ แต่บ้างก็ว่าเพลงนี้มีเนื้อหาแฝงปรัชญา ซึ่งด้วยความสวยงามลงตัวของเพลง ส่งผลให้คนเก็บฟืนกลายเป็นเพลงประจำตัวของน้าเล็กและเป็นอีกหนึ่งเพลงอมตะของคาราบาวมาจนทุกวันนี้
ส่วน “เวลา” เพลงนี้สลับกัน น้าเล็กแต่ง น้าแอ๊ดร้อง เป็นร้องโจ๊ะๆ เนื้อหาเตือนใจว่า เวลาไม่เคยคอยท่า คอยใคร เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
ขณะที่ “คนนิรนาม” เป็นการร่วมกันแต่งระหว่างน้าแอ๊ดกับน้าเล็ก เนื้อหาดีทีเดียว ว่าด้วยชีวิตชาวอีสานหลายๆคนที่มาตายเอาดาบหน้า หางานในเมืองหลวงทำ กับถ้อยคำโดนๆ “งานหนัก งานเหนื่อย งานนาน ไม่เป็นคนเกียจคร้าน ทำได้ก็ทำเอา...” นอกจากนี้ยังมีภาคดนตรีเท่ๆในช่วงท้ายกับท่วงทำนองพื้นบ้านอีสาน มีการเล่นสอดรับประสานกันระหว่างกีตาร์ คลาริเน็ต
ปิดท้ายกันด้วย “กลิ่นรวงทอง” ที่อวลไปด้วยบรรยากาศชนบทอันทุกข์ยาก น้าแอ๊ดในวัยหนุ่มที่เสียงยังสดอยู่ ร้องเพลงนุ่มๆติดอารมณ์เศร้าได้น่าฟังมาก
เพลงเพราะๆ จากฝีมือการแต่งของ “จิตร ภูมิศักดิ์” สะทกสะท้อนวิถีความยากลำบากของชาวนา ที่ในยุคนั้นว่าลำบากแล้ว ในยุคนี้ยิ่งลำบากกว่า เพราะถูกรัฐบาลขี้ข้าโกงจำนำข้าว
จบไปแล้วกับ 10 บทเพลงในชุด ท.ทหารอดทน ที่มีบทเพลงดังๆ อยู่หลายเพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ท.ทหารอดทน,ทินเนอร์,ผู้เฒ่า,ขี้เมาใจดี,สวรรค์บ้านนา,ตุ๊กตา และโดยเฉพาะเพลงคนเก็บฟืนที่โด่งดังค้างฟ้า นับได้ว่าชุด ท.ทหารอดทน คือการต่อยอดความสำเร็จจากชุดวณิพกที่สร้างชื่อแจ้งเกิดให้คาราบาว ก่อนที่พวกเขาจะเดินหน้าก้าวไปสู่ความสำเร็จขึ้นสูงสุดในชุดถัดไป คือ “เมดอินไทยแลนด์”
สำหรับชุด ท.ทหารอดทน นอกจากจะถือเป็นอีกหนึ่งผลงานเพลงอมตะของคาราบาวแล้ว ในช่วงเวลานี้ชื่อของอัลบั้มยังมีความสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง เพราะในเมื่อมีพวกชั่วบางกลุ่ม มันเตรียมนำอาวุธสงครามมาฆ่าประชาชนคนบริสุทธิ์ ก่อวินาศกรรม นั่นจึงทำให้ ท.ทหาร เลิกอดทน หันมาประกาศกฎอัยการศึก เพื่อยับยั้งการสูญเสีย นองเลือด ของผู้บริสุทธิ์
อย่างไรก็ดี เราก็ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สุดท้ายแล้ว ท.ทหารผู้กุมอำนาจ จะยืนอยู่ข้างไหน ข้างสถาบัน ประเทศชาติ ประชาชน หรือยืนอยู่ข้างระบอบทักษิณ??
กฎอัยการศึก จะแปรเป็น“กฎอัยการสุข” หรือ “กฎอัยการแสบ”
เรื่องนี้นับว่าน่าติดตามยิ่ง!?!
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : คาราบาว
อัลบั้ม : รวมฮิต คาราบาว ควายทอง
อัลบั้มรวมเพลงคัดสรรในระดับมาสเตอร์พีชสุดคลาสสิกของวงคาราบาว เจ้าพ่อเพลงเพื่อชีวิตของบ้านเรา ในรูปแบบ MP3 จำนวน 50 เพลง ซึ่งมีคละเคล้ากันไปทั้งเพลงเร็ว3 ช่า เพลงโจ๊ะๆ เพลงช้า เพลงร็อก ประกอบไปด้วยเพลงเด่น เพลงดัง ที่คุ้นหู คนไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ลุงขี้เมา”, “คนเก็บฟืน”, “วณิพก”, “รักทรหด”, “เมดอินไทยแลนด์”, “ทะเลใจ”, “แม่สาย”, “บัวลอย” และอื่นๆอีกมากมาย ถือเป็นงานรวมเพลงดังคาราบาวที่มาจัดเก็บใหม่ในระบบ 320 kbps ให้เสียงคุณภาพที่คมชัดขึ้นกว่าในยุคที่เป็นเทปดั้งเดิม งานนี้แฟนพันธุ์แท้คาราบาวไม่ควรพลาด เพราะราคาสบายกระเป๋าแค่ 99 บาทเท่านั้น
หลังวง“คาราบาว”โด่งดังพุ่งพรวดจากเพลง “วณิพก” ในอัลบั้มชุดที่ 3 คือ “วณิพก” ที่ออกมาในต้นปี พ.ศ. 2526
วงหัวควายฉวยโอกาสน้ำขึ้นให้รีบตักตามสุภาษิตไทย ออกอัลบั้มที่ 4 “ท.ทหารอดทน” ตามมาติดๆในปีเดียวกัน
คาราบาวในชุดนี้ จากเดิมที่มี สมาชิก 3 คน คือ “น้าแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล”, “น้าเล็ก - ปรีชา ชนะภัย” และ “น้าเขียว - กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร” ได้เพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 2 พะหน่อ คือ “น้าเป้า - อำนาจ ลูกจันทร์” มือกลอง และ “ไพรัช เพิ่มฉลาด” มือเบส(ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
นอกจากนี้วงคาราบาวยังมีสมาชิกสมทบที่บางคนมีส่วนร่วมทั้งในห้องอัดและเวทีคอนเสิร์ตคือ “น้าหมู-พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ”, “จิตรกร บัวเนียม”, “เอนก รุ่งเรือง” และ 2 นักดนตรีคนสำคัญคือ “เทียรี่ เมฆวัฒนา” และ “อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี” ที่ในชุดถัดไปคือ “เมดอินไทยแลนด์”(2527) ได้กลายมาเป็นสมาชิกถาวรของคาราบาวและร่วมสร้างตำนานอันลือลั่นของวงหัวควายจนกลายเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีอมตะแห่งวงการดนตรีไทย
การที่คาราบาวมีสมาชิกเพิ่มและมีทีมนักดนตรีมาช่วยมากขึ้น ทำให้ดนตรีในชุด ท.ทหารอดทน มีความหลากหลายและมีสีสันมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเครื่องเป่าที่ได้ อ.ธนิสร์มาฝากฝีปากเจ๋งๆเอาไว้
สำหรับบทเพลงในชุด ท.ทหารอดทน มีทั้งหมด 10 บทเพลงด้วยกัน เป็นไปตามมาตรฐานของยุคที่เทปคลาสเซ็ทยังครองโลก โดยบทเพลงส่วนใหญ่เขียนโดยแอ๊ด คาราบาว ซึ่งเริ่มต้นเปิดประเดิมกันด้วยเพลง “ท.ทหารอดทน” ที่ถือว่ามีไอเดียแปลกใหม่ต่อการทำเพลงในยุคนั้นไม่น้อย
เพลงนี้มีการนำลีลาของเพลงมาร์ชสลับกับการพูด(แร๊พแบบไทยๆ)มาผสมใส่ ผ่านลีลาดนตรีสนุกๆโดดเด่นไปด้วยเสียงกลองมาร์ช ขลุ่ยฝรั่ง(รีคอร์ดเดอร์) และแบนโจ กับเนื้อหาพูดถึงชีวิตความยากลำบากของ ท.ทหารชั้นผู้น้อย ขณะที่ ท.ทหารชั้นผู้ใหญ่ กับแก่งแย่งช่วงชิงกันไขว่คว้าในยศฐาตำแหน่ง
และด้วยเนื้อหาที่ฟังแล้วแสลงใจผู้มีอำนาจบางคนในยุคนั้น เพลง ท.ทหารอดทน จึงถูกแบน นับเป็นเพลงที่ 2 ของคาราบาวที่ถูกแบน หลังจากเพลง “กัญชา” ในชุด แป๊ะขายขวด
เท่านั้นยังไม่พอคาราบาวยังมีอีกหนึ่งเพลงที่ถูกแบนตามมาติดในชุดนี้คือ “ทินเนอร์” เพลงร็อกโจ๊ะๆ เนื้อหาดีทีเดียว สะท้อนเรื่องราวของเด็กติดทินเนอร์ที่เป็นยาเสพติดอันตรายยอดฮิตในยุคนั้น แต่เพลงนี้ก็ถูกแบนด้วยเหตุผลว่าพูดถึงยาเสพติด
ถัดมาเป็นเพลง “ผู้เฒ่า” อีกหนึ่งเพลงดังเนื้อหาดีแต่ฟังเศร้าใจกับเนื้อหาสะท้อนความจริงถึงวิถีคนเฒ่าคนแก่ในบ้านเรา โดยมีท่อนฮุกเด็ดๆฟังสะดุดหู สะกิดใจ ในอารมณ์ชวนรันทด คือ “...ผู้เฒ่าเอย ถึงเนื้อหนังหย่อนหยาน ถ้าสมบัติมโหฬาร ลูกหลานมาเอาใจ นะ ผู้เฒ่าเอยถึงเนื้อหนังเหี่ยวย่น ถ้าสมบัติมากล้น ยังพอมีคนเอาใจ...”
ต่อกันกับ “ขี้เมาใจดี”(ถึกควายทุยภาค 4) กับบทเพลงคันทรีร็อกสบายๆ เล่าเรื่องโหนกเข้ากรุง ใช้ชีวิตขี้เมาดูช้างดูลิงในเขาดินกับเนื้อหากวนๆ เมาแล้วสงสัยว่าจับสัตว์มาขังทำไม เป็นการผ่อนคลายอารมณ์จากเนื้อหาเครียดๆของถึกควายทุยใน 3 ภาคแรก
“สวรรค์บ้านนา” เนื้อหาว่าด้วยหนุ่ม-สาวชาวชนบทที่มาจำใจมารับจ้างขายแรงงานอยู่ในเมืองกรุงฯ ครั้นเมื่อลมร้อนโรยรา ฝนฟ้ามาเยือน เข้าสู่ฤดูทำนา หนุ่ม-สาว เหล่านั้นได้เวลากลับคืนถิ่นไปทำนา สัมผัสความชุ่มฉ่ำเขียวขจี พบเจอเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง นับเป็นช่วงเวลาทองของสวรรค์บ้านนา ก่อนที่ฤดูทำนาจะสิ้นสุด พวกเขาต้องทิ้งสวรรค์บ้านนาเข้ามาขายแรงงานในเมืองกรุงฯอีกครั้ง ให้ผู้เฒ่าเฝ้าอู่บ้านเรือนแทน นับเป็นวัฏจักรของชาวชนบทผู้มาเข้าใช้แรงงานในเมืองหลวงของยุคนั้น
เพลงนี้น้าแอ๊ดร่วมกันแต่งกับ “สุรสีห์ ผาธรรม” มาในกลิ่นดนตรีพื้นบ้านสนุกๆ ภาษาเรียบง่ายแต่มีสัมผัสสวยงาม อีกทั้งยังฟังแล้วเห็นภาพดีทีเดียว
มาถึงแทรคที่ 6 หรือเพลงแรกของเทปในหน้าสองกับเพลง “ตุ๊กตา” เพลงช้าๆหวานๆ เด่นด้วยเสียงฮาร์โมนิก้าฝีปากน้าแอ๊ด สอดประสานด้วยเสียงสไลด์กีตาร์เท่ๆ เพลงนี้เล่าเรื่องชีวิตผ่านมุมมองของตุ๊กตาในวัยเด็ก ซึ่งตอนหลังเพลงตุ๊กตาได้โอนถ่ายให้น้าเทียรี่มารับช่วงร้องแทนเวลาเล่นคอนเสิร์ต เพราะเข้ากับเสียงนุ่มๆของน้าแก
ต่อกันกับเพลงสำคัญ “คนเก็บฟืน” เพลงนี้เป็นเพลงที่แจ้งเกิดให้กับน้าเล็กอย่างเต็มตัว หลังในชุด 2 ชุด 3 ได้เคยฝากเสียงร้องไว้กับเพลง “เมากีตาร์”, “ลอยหาย” และ “จับกัง” แต่ว่าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้
เพลงคนเก็บฟืนน้าแอ๊ดแต่ง น้าเล็กร้อง เพลงนี้บางคนอาจจะฟังงงๆและสงสัยว่าพ่อหนุ่มคนนี้ไม่ทำอะไร วันๆเอาแต่เก็บฟืน ต้มน้ำ แต่บ้างก็ว่าเพลงนี้มีเนื้อหาแฝงปรัชญา ซึ่งด้วยความสวยงามลงตัวของเพลง ส่งผลให้คนเก็บฟืนกลายเป็นเพลงประจำตัวของน้าเล็กและเป็นอีกหนึ่งเพลงอมตะของคาราบาวมาจนทุกวันนี้
ส่วน “เวลา” เพลงนี้สลับกัน น้าเล็กแต่ง น้าแอ๊ดร้อง เป็นร้องโจ๊ะๆ เนื้อหาเตือนใจว่า เวลาไม่เคยคอยท่า คอยใคร เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
ขณะที่ “คนนิรนาม” เป็นการร่วมกันแต่งระหว่างน้าแอ๊ดกับน้าเล็ก เนื้อหาดีทีเดียว ว่าด้วยชีวิตชาวอีสานหลายๆคนที่มาตายเอาดาบหน้า หางานในเมืองหลวงทำ กับถ้อยคำโดนๆ “งานหนัก งานเหนื่อย งานนาน ไม่เป็นคนเกียจคร้าน ทำได้ก็ทำเอา...” นอกจากนี้ยังมีภาคดนตรีเท่ๆในช่วงท้ายกับท่วงทำนองพื้นบ้านอีสาน มีการเล่นสอดรับประสานกันระหว่างกีตาร์ คลาริเน็ต
ปิดท้ายกันด้วย “กลิ่นรวงทอง” ที่อวลไปด้วยบรรยากาศชนบทอันทุกข์ยาก น้าแอ๊ดในวัยหนุ่มที่เสียงยังสดอยู่ ร้องเพลงนุ่มๆติดอารมณ์เศร้าได้น่าฟังมาก
เพลงเพราะๆ จากฝีมือการแต่งของ “จิตร ภูมิศักดิ์” สะทกสะท้อนวิถีความยากลำบากของชาวนา ที่ในยุคนั้นว่าลำบากแล้ว ในยุคนี้ยิ่งลำบากกว่า เพราะถูกรัฐบาลขี้ข้าโกงจำนำข้าว
จบไปแล้วกับ 10 บทเพลงในชุด ท.ทหารอดทน ที่มีบทเพลงดังๆ อยู่หลายเพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ท.ทหารอดทน,ทินเนอร์,ผู้เฒ่า,ขี้เมาใจดี,สวรรค์บ้านนา,ตุ๊กตา และโดยเฉพาะเพลงคนเก็บฟืนที่โด่งดังค้างฟ้า นับได้ว่าชุด ท.ทหารอดทน คือการต่อยอดความสำเร็จจากชุดวณิพกที่สร้างชื่อแจ้งเกิดให้คาราบาว ก่อนที่พวกเขาจะเดินหน้าก้าวไปสู่ความสำเร็จขึ้นสูงสุดในชุดถัดไป คือ “เมดอินไทยแลนด์”
สำหรับชุด ท.ทหารอดทน นอกจากจะถือเป็นอีกหนึ่งผลงานเพลงอมตะของคาราบาวแล้ว ในช่วงเวลานี้ชื่อของอัลบั้มยังมีความสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง เพราะในเมื่อมีพวกชั่วบางกลุ่ม มันเตรียมนำอาวุธสงครามมาฆ่าประชาชนคนบริสุทธิ์ ก่อวินาศกรรม นั่นจึงทำให้ ท.ทหาร เลิกอดทน หันมาประกาศกฎอัยการศึก เพื่อยับยั้งการสูญเสีย นองเลือด ของผู้บริสุทธิ์
อย่างไรก็ดี เราก็ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สุดท้ายแล้ว ท.ทหารผู้กุมอำนาจ จะยืนอยู่ข้างไหน ข้างสถาบัน ประเทศชาติ ประชาชน หรือยืนอยู่ข้างระบอบทักษิณ??
กฎอัยการศึก จะแปรเป็น“กฎอัยการสุข” หรือ “กฎอัยการแสบ”
เรื่องนี้นับว่าน่าติดตามยิ่ง!?!
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : คาราบาว
อัลบั้ม : รวมฮิต คาราบาว ควายทอง
อัลบั้มรวมเพลงคัดสรรในระดับมาสเตอร์พีชสุดคลาสสิกของวงคาราบาว เจ้าพ่อเพลงเพื่อชีวิตของบ้านเรา ในรูปแบบ MP3 จำนวน 50 เพลง ซึ่งมีคละเคล้ากันไปทั้งเพลงเร็ว3 ช่า เพลงโจ๊ะๆ เพลงช้า เพลงร็อก ประกอบไปด้วยเพลงเด่น เพลงดัง ที่คุ้นหู คนไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ลุงขี้เมา”, “คนเก็บฟืน”, “วณิพก”, “รักทรหด”, “เมดอินไทยแลนด์”, “ทะเลใจ”, “แม่สาย”, “บัวลอย” และอื่นๆอีกมากมาย ถือเป็นงานรวมเพลงดังคาราบาวที่มาจัดเก็บใหม่ในระบบ 320 kbps ให้เสียงคุณภาพที่คมชัดขึ้นกว่าในยุคที่เป็นเทปดั้งเดิม งานนี้แฟนพันธุ์แท้คาราบาวไม่ควรพลาด เพราะราคาสบายกระเป๋าแค่ 99 บาทเท่านั้น