ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ
ผมเชื่อว่า “คาราบาว” เป็นวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของใครหลายคนที่เกิดในยุคเดียวกับผม และยังยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเนื้อหาที่เหมือนกับบทความวิพากษ์สังคม หรือคอลัมน์วิจารณ์การเมืองในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เสพด้วยหูผ่านบทเพลงทำนองย่อยง่ายที่มีเพียงเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น และสามารถนำไปเล่นต่อได้ด้วยกีตาร์เพียงตัวเดียว
อัลบั้มที่สร้างชื่อให้ “คาราบาว” จนกลายเป็นวงดนตรีที่โด่งดังไปทั่วประเทศคือ “เมดอินไทยแลนด์” ในปี 2527 ที่มียอดจำหน่ายในปีเดียวเกิน 5 ล้านก๊อบปี้ ปลายปี 2528 คาราบาวได้เปิดตัวอัลบั้มที่ 6 ชื่อ “อเมริโกย” ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกที่ใช้ห้องอัดเซ็นเตอร์สเตจของวงคาราบาวเองในการอัดเสียง โดยมีเพลงที่โด่งดัง ติดหูผู้ฟังมากมายเช่น ซาอุดร คนจนผู้ยิ่งใหญ่ มะโหนก ฯลฯ
นอกจากนั้น ปกเทปด้านใน “แอ๊ด คาราบาว” ยังเขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า “คาราบาวกลายเป็นวงดนตรีที่ฮอตที่สุดแห่งยุค ไม่มีใครไม่รู้จัก คาราบาว เราถูกดึงเข้าร่วมสงคราม ณ ทุ่งสวนอำพร โดยไม่รู้ตัว เสียงปืนใหญ่รถถังที่คุณได้ยินในท้ายเพลง มะโหนก คือของจริง ที่ขณะนั้นเรากำลังเล่นให้คนชมอยู่ในสนาม ทบ.แล้วเสียงปืนก็ระเบิดดังก้อง นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นและได้ยินรถถังยิงปืน เล็ก คว้าปืน .38 ขึ้นมา ผมคว้า WALTHER P.38 ขนาด 9 มม.มาถือไว้ แล้วตอบคำถามเล็กไปว่า หลบก่อนเถอะว่ะ ปืนเรามันเล็กเกินไป อาจจะเป็นเพราะความหนุ่ม ความห้าว ความบ้า ที่ทำให้ผมรับปากพี่นูญ ในเรื่องนี้ ผมจำได้แม่นว่าพวกทหารที่ติดคุก ถึงตอนโรงเรียนจะเปิด ผมส่งเงินไปให้ค่าเทอมลูกๆ เขา และยังเคยส่งเงิน 200,000 บาท ไปให้พี่นูญที่เยอรมันด้วย ทั้งหมดผมส่งผ่าน อ.พนัสชัย ศุรามิตร คนสนิทของพี่นูญ ที่ผมไม่เคยลืม เงินทั้งหมดมาจากการขายเทปชุด กัมพูชาในขณะนั้น /แอ๊ด คาราบาว 1 ธ.ค. 2528”
เพลง “หำเฮี้ยน” เป็นเพลงลำดับที่ 6 ในอัลบั้ม “อเมริโกย” มีความยาวมากถึง 6 นาที ยาวกว่าทุกเพลงในอัลบั้ม แต่ถูก กบว.ในขณะนั้นห้ามออกอากาศ จะเป็นเพราะเหตุผลใดก็สุดแล้วแต่จะคาดเดา บ้างก็ว่าเป็นเพราะเพลงนี้พาดพิง กบว.บ้างก็ว่าเป็นเพราะเพลงนี้พาดพิงรัฐบาล บ้างก็ว่ามีภาษาไม่สุภาพ ฯลฯ หลายท่านอาจนึกไม่ออกว่าเนื้อเพลงนี้กล่าวถึงอะไร ผมจึงขอนำเนื้อเพลงมาลองทบทวนอีกครั้ง ดังนี้ครับ
ชาวนาคือผู้ทํานาปลูกข้าว เลี้ยงเรามาจนเป็นหนุ่มสาว
ยันจนเหลาเฒ่าแก่ชรา แต่เหตุไฉนชาวนาไทยอับจนเรื่อยมา
เผชิญดินนํ้าลมฟ้า เผชิญปัญหาชะตากรรม
ถามคุณพ่อแม่ ปู่ย่าตายายของเรา ลองกระซิบถามท่านเบาๆ
ท่านโตด้วยข้าวมือใคร ตอนเราเป็นเด็กเราได้ดื่มนํ้านมมากมาย
นมจากเต้าเอามาจากไหน ใช่หรือไม่เหงื่อไคลชาวนา
วิงวอนฝากมาถึงรัฐสภาจากชาวนาไทย คุณนั่งห้องแอร์มันคงสบาย
กลิ่นโคลนสาบควายยังนองนํ้าตา ร่างนโยบายซื้อขายข้าวเปลือกประกันราคา
เกษตรกรเขานอนผวา รายได้ตํ่ากว่าราคาลงทุน
ดีชั่วตัวคุณเขาสนับหนุนคุณเป็นผู้แทน เลือกเอาไปเป็นขาเป็นแขน
อย่าปล่อยแฟนๆ ทิ้งไร่ทิ้งนา หายหัวกบาลจนชาวบ้านเขาเอือมระอา
เลือกตั้งครั้งสมัยหน้า ใครเขาจะกล้าไปลงคะแนน
การเมืองเป็นร่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ผมพูดความจริงขอจงอย่าโกรธ
ภาษาที่ใช้คําไทยโดดๆ ขอโทษทีครับแบนหําทําไม
หําคนทํากินใช่อันธพาลประเทศไทย หําคําเดียวจําง่าย ชื่อจริงชื่อนายหําเทียม
นักเขียนนักข่าวหําขอร้องกล่าวปรับความเข้าใจ อย่านึกว่าเป็นนักเขียนมันง่าย
เขียนสุ่มกันไปรับเงินลูกเดียว งานจับปากกาก็เหมือนชาวนาเขากําด้ามเดียว
ขีดเขียนเก็บเกี่ยวไม่ต่างกันตรงที่ความจริงใจ
เพลงหําครํ่าครวญชักชวนให้คุณเห็นความเป็นไทย อย่าเอาหนังสือพิมพ์บ่อนทําลาย
ควํ่ากระจาดตลาดลงทุน อย่ายอมรับใช้เขียนซ้ายเลียขวาจนวุ่น
กวนบ้านเมืองจนขุ่น กวนโอ๊ยกวนส้นตีน
ยังมีอีกมากที่ลากออกมาพอเป็นกระสัย
แต่หําต้องขอทิ้งท้าย ศิลปินไทยฟังหําหน่อยซี
อย่าร้องอย่ารําอย่านําทางมั่วโลกีย์ สร้างตัวอย่างไม่ดี ให้ลูกให้หลานให้เยาวชน
ใช่ร้องใช่รําทําด้วยแรงขนมปัง จะร้องจะเล่นเห็นความจริงบ้าง
ชาวนาเคว้งคว้างขัดสน แหกปากเข้าไปเอาแต่จะได้ประโยชน์ใส่ตน
ถึงหําจะแปลว่าสัปดน ยังดีกว่าคนที่เนรคุณ
ย้ำอีกครั้งว่าเพลงนี้ได้ถูกเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 2528 ผ่านมา 29 ปีแล้วนะครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเนื้อหายังคงทันสมัยและใช้ได้กับสภาพสังคมไทยในเวลานี้ถ้าจะนำมาออกอากาศอีกสักครั้ง จะถูกแบนไหมครับเนี่ย
ผมเชื่อว่า “คาราบาว” เป็นวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของใครหลายคนที่เกิดในยุคเดียวกับผม และยังยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเนื้อหาที่เหมือนกับบทความวิพากษ์สังคม หรือคอลัมน์วิจารณ์การเมืองในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เสพด้วยหูผ่านบทเพลงทำนองย่อยง่ายที่มีเพียงเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น และสามารถนำไปเล่นต่อได้ด้วยกีตาร์เพียงตัวเดียว
อัลบั้มที่สร้างชื่อให้ “คาราบาว” จนกลายเป็นวงดนตรีที่โด่งดังไปทั่วประเทศคือ “เมดอินไทยแลนด์” ในปี 2527 ที่มียอดจำหน่ายในปีเดียวเกิน 5 ล้านก๊อบปี้ ปลายปี 2528 คาราบาวได้เปิดตัวอัลบั้มที่ 6 ชื่อ “อเมริโกย” ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกที่ใช้ห้องอัดเซ็นเตอร์สเตจของวงคาราบาวเองในการอัดเสียง โดยมีเพลงที่โด่งดัง ติดหูผู้ฟังมากมายเช่น ซาอุดร คนจนผู้ยิ่งใหญ่ มะโหนก ฯลฯ
นอกจากนั้น ปกเทปด้านใน “แอ๊ด คาราบาว” ยังเขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า “คาราบาวกลายเป็นวงดนตรีที่ฮอตที่สุดแห่งยุค ไม่มีใครไม่รู้จัก คาราบาว เราถูกดึงเข้าร่วมสงคราม ณ ทุ่งสวนอำพร โดยไม่รู้ตัว เสียงปืนใหญ่รถถังที่คุณได้ยินในท้ายเพลง มะโหนก คือของจริง ที่ขณะนั้นเรากำลังเล่นให้คนชมอยู่ในสนาม ทบ.แล้วเสียงปืนก็ระเบิดดังก้อง นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นและได้ยินรถถังยิงปืน เล็ก คว้าปืน .38 ขึ้นมา ผมคว้า WALTHER P.38 ขนาด 9 มม.มาถือไว้ แล้วตอบคำถามเล็กไปว่า หลบก่อนเถอะว่ะ ปืนเรามันเล็กเกินไป อาจจะเป็นเพราะความหนุ่ม ความห้าว ความบ้า ที่ทำให้ผมรับปากพี่นูญ ในเรื่องนี้ ผมจำได้แม่นว่าพวกทหารที่ติดคุก ถึงตอนโรงเรียนจะเปิด ผมส่งเงินไปให้ค่าเทอมลูกๆ เขา และยังเคยส่งเงิน 200,000 บาท ไปให้พี่นูญที่เยอรมันด้วย ทั้งหมดผมส่งผ่าน อ.พนัสชัย ศุรามิตร คนสนิทของพี่นูญ ที่ผมไม่เคยลืม เงินทั้งหมดมาจากการขายเทปชุด กัมพูชาในขณะนั้น /แอ๊ด คาราบาว 1 ธ.ค. 2528”
เพลง “หำเฮี้ยน” เป็นเพลงลำดับที่ 6 ในอัลบั้ม “อเมริโกย” มีความยาวมากถึง 6 นาที ยาวกว่าทุกเพลงในอัลบั้ม แต่ถูก กบว.ในขณะนั้นห้ามออกอากาศ จะเป็นเพราะเหตุผลใดก็สุดแล้วแต่จะคาดเดา บ้างก็ว่าเป็นเพราะเพลงนี้พาดพิง กบว.บ้างก็ว่าเป็นเพราะเพลงนี้พาดพิงรัฐบาล บ้างก็ว่ามีภาษาไม่สุภาพ ฯลฯ หลายท่านอาจนึกไม่ออกว่าเนื้อเพลงนี้กล่าวถึงอะไร ผมจึงขอนำเนื้อเพลงมาลองทบทวนอีกครั้ง ดังนี้ครับ
ชาวนาคือผู้ทํานาปลูกข้าว เลี้ยงเรามาจนเป็นหนุ่มสาว
ยันจนเหลาเฒ่าแก่ชรา แต่เหตุไฉนชาวนาไทยอับจนเรื่อยมา
เผชิญดินนํ้าลมฟ้า เผชิญปัญหาชะตากรรม
ถามคุณพ่อแม่ ปู่ย่าตายายของเรา ลองกระซิบถามท่านเบาๆ
ท่านโตด้วยข้าวมือใคร ตอนเราเป็นเด็กเราได้ดื่มนํ้านมมากมาย
นมจากเต้าเอามาจากไหน ใช่หรือไม่เหงื่อไคลชาวนา
วิงวอนฝากมาถึงรัฐสภาจากชาวนาไทย คุณนั่งห้องแอร์มันคงสบาย
กลิ่นโคลนสาบควายยังนองนํ้าตา ร่างนโยบายซื้อขายข้าวเปลือกประกันราคา
เกษตรกรเขานอนผวา รายได้ตํ่ากว่าราคาลงทุน
ดีชั่วตัวคุณเขาสนับหนุนคุณเป็นผู้แทน เลือกเอาไปเป็นขาเป็นแขน
อย่าปล่อยแฟนๆ ทิ้งไร่ทิ้งนา หายหัวกบาลจนชาวบ้านเขาเอือมระอา
เลือกตั้งครั้งสมัยหน้า ใครเขาจะกล้าไปลงคะแนน
การเมืองเป็นร่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ผมพูดความจริงขอจงอย่าโกรธ
ภาษาที่ใช้คําไทยโดดๆ ขอโทษทีครับแบนหําทําไม
หําคนทํากินใช่อันธพาลประเทศไทย หําคําเดียวจําง่าย ชื่อจริงชื่อนายหําเทียม
นักเขียนนักข่าวหําขอร้องกล่าวปรับความเข้าใจ อย่านึกว่าเป็นนักเขียนมันง่าย
เขียนสุ่มกันไปรับเงินลูกเดียว งานจับปากกาก็เหมือนชาวนาเขากําด้ามเดียว
ขีดเขียนเก็บเกี่ยวไม่ต่างกันตรงที่ความจริงใจ
เพลงหําครํ่าครวญชักชวนให้คุณเห็นความเป็นไทย อย่าเอาหนังสือพิมพ์บ่อนทําลาย
ควํ่ากระจาดตลาดลงทุน อย่ายอมรับใช้เขียนซ้ายเลียขวาจนวุ่น
กวนบ้านเมืองจนขุ่น กวนโอ๊ยกวนส้นตีน
ยังมีอีกมากที่ลากออกมาพอเป็นกระสัย
แต่หําต้องขอทิ้งท้าย ศิลปินไทยฟังหําหน่อยซี
อย่าร้องอย่ารําอย่านําทางมั่วโลกีย์ สร้างตัวอย่างไม่ดี ให้ลูกให้หลานให้เยาวชน
ใช่ร้องใช่รําทําด้วยแรงขนมปัง จะร้องจะเล่นเห็นความจริงบ้าง
ชาวนาเคว้งคว้างขัดสน แหกปากเข้าไปเอาแต่จะได้ประโยชน์ใส่ตน
ถึงหําจะแปลว่าสัปดน ยังดีกว่าคนที่เนรคุณ
ย้ำอีกครั้งว่าเพลงนี้ได้ถูกเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 2528 ผ่านมา 29 ปีแล้วนะครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเนื้อหายังคงทันสมัยและใช้ได้กับสภาพสังคมไทยในเวลานี้ถ้าจะนำมาออกอากาศอีกสักครั้ง จะถูกแบนไหมครับเนี่ย