ผู้บริหาร SPCG เผยกำไรไตรมาส 2 ก้าวกระโดด 160 เปอร์เซ็นต์ เตรียม ฉลองความสำเร็จครบ 36 โครงการ ควักจ่ายปันผล 40 สตางค์
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยถึงความสำเร็จของการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มของกลุ่มบริษัท SPCG ว่า บริษัทฯในฐานะผู้นำด้านการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm)ในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน จำนวนรวม 36 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 25,000 ล้านบาท สามารถจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ประกอบกับบริษัทประสบความสำเร็จจากการออก และเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท สามารถนำไปชำระหนี้เงินกู้ส่วนทุน ลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน ปลดล็อกการขยายธุรกิจและการจ่ายเงินปันผล และเพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จในการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 โครงการ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2557 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 หุ้นละ 40สตางค์ จำนวน 923,990,000 หุ้น ทั้งนี้ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 27 สิงหาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนและพักการโอนหุ้น ในวันที่ 28 สิงหาคม 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 5 กันยายน 2557
สำหรับผลประกอบการงบการเงินรวม SPCG สิ้นสุดไตรมาส 2/2557 มีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 160% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 287 ล้านบาท สัดส่วน Interest Bearing D/E Ratio ลดลงจาก 4.7x ช่วงสิ้นปี 2556 เหลือ 4.3x ช่วงสิ้นไตรมาส 2/2557 และคาดว่าจะลดลงเหลือ 3.1x ในช่วงหลังไตรมาส 2/2557
ทั้งนี้ SPCG มีแผนการลงทุนขยายโอกาสทางธุรกิจเพื่อสอดรับต่อมติคณะกรรมการนโยบายทางพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้กำหนดแนวทางส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) โดยเปิดการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงปี 2557-2558 ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาท นอกจากนี้ SPCG มีแผนที่จะขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรในการลงทุนในต่างประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายในประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มเป้าหมายในประเทศอาเซียน ในช่วงปลายปี 2557