CHOW อวดผลงานโค้ง 2 เยี่ยม หนุนครึ่งปีกำไรทะลุ 75.75 ลบ. กระโดด 344.28% จากปีก่อน “อนาวิล จิรธรรมศิริ” เผยเป็นผลจากยอดขายเพิ่ม ตามการเติบโตของอุตสาหกรรม บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจทำผลงานทั้งปีเติบโตได้ตามเป้า หลังออเดอร์ยังทะลักต่อเนื่อง ด้านธุรกิจพลังงานส่งสัญญาณเห็นรายได้ชัดเจนในไตรมาส 4 ปีนี้
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน- มิถุนายน 2557) ว่า บริษัทฯ พลิกจากขาดทุน 17.36 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2556 ที่ได้รับผลกระทบจากกการแข็งค่าของเงินบาท มามีกำไรสุทธิ จำนวน 40.67 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ จึงส่งผลให้ผลประกอบการในงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 75.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.70 ล้านบาทหรือร้อยละ 344.28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 17.05 ล้านบาท
“ไตรมาสที่ 2/2557 เราสามารถทำผลประกอบการให้พลิกกลับมาเป็นกำไรเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้มีการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสะท้อนให้กำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ในปีนี้” นายอนาวิลกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2557) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,306.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 965.49 ล้านบาท ส่งผลให้งวดสะสม 6 เดือนบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,715.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 727.61 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.60 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 1,988.26 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น 726.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.81 ตามปริมาณการขายเหล็กที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.64 ประกอบกับราคาขายเหล็กแท่งมีการปรับตัวตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ โดยต้นทุนขายและบริการรวมสำหรับงวด 6 เดือนอยู่ที่จำนวน 2,526.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 648.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.54 เมื่อเทียบกับปี 2556 จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว
นายอนาวิล กล่าวต่อถึงอุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ในปีนี้ว่า ยังมีสัญญาณเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวอย่างชัดเจน ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายปริมาณการขาย Steel Billet ไว้ที่ 300,000 – 320,000 ตัน จากปีก่อนที่ทำได้ 280,000 ตัน และจากผลประกอบการในงวดครึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าบริษัทฯ สามารถสร้างผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้สำหรับธุรกิจเหล็ก ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เริ่มรับรู้รายได้บางส่วนมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2557 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ได้มีนโยบายขยายฐานธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มจากธุรกิจเหล็กที่เป็นธุรกิจหลัก เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต ทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวตามปณิธานของคณะกรรมการได้ โดยได้เริ่มโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน- มิถุนายน 2557) ว่า บริษัทฯ พลิกจากขาดทุน 17.36 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2556 ที่ได้รับผลกระทบจากกการแข็งค่าของเงินบาท มามีกำไรสุทธิ จำนวน 40.67 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ จึงส่งผลให้ผลประกอบการในงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 75.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.70 ล้านบาทหรือร้อยละ 344.28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 17.05 ล้านบาท
“ไตรมาสที่ 2/2557 เราสามารถทำผลประกอบการให้พลิกกลับมาเป็นกำไรเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้มีการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสะท้อนให้กำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ในปีนี้” นายอนาวิลกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2557) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,306.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 965.49 ล้านบาท ส่งผลให้งวดสะสม 6 เดือนบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,715.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 727.61 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.60 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 1,988.26 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น 726.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.81 ตามปริมาณการขายเหล็กที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.64 ประกอบกับราคาขายเหล็กแท่งมีการปรับตัวตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ โดยต้นทุนขายและบริการรวมสำหรับงวด 6 เดือนอยู่ที่จำนวน 2,526.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 648.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.54 เมื่อเทียบกับปี 2556 จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว
นายอนาวิล กล่าวต่อถึงอุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ในปีนี้ว่า ยังมีสัญญาณเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวอย่างชัดเจน ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายปริมาณการขาย Steel Billet ไว้ที่ 300,000 – 320,000 ตัน จากปีก่อนที่ทำได้ 280,000 ตัน และจากผลประกอบการในงวดครึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าบริษัทฯ สามารถสร้างผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้สำหรับธุรกิจเหล็ก ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เริ่มรับรู้รายได้บางส่วนมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2557 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ได้มีนโยบายขยายฐานธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มจากธุรกิจเหล็กที่เป็นธุรกิจหลัก เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต ทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวตามปณิธานของคณะกรรมการได้ โดยได้เริ่มโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก