“เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” โชว์ผลงานปี 56 ยอดเยี่ยม ฝ่าวิกฤตบาทแข็ง-การเมือง ดันกำไรพุ่งกว่า 300% จาก 25.46 ลบ.ในปีก่อนมาเป็นกำไร 105.17 ลบ. “อนาวิล จิรธรรมศิริ” เผยเป็นผลจากราคาเหล็กปรับเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ที่ขยายตัว และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงาน ขณะที่บริหารจัดการต้นทุนได้ดี มั่นใจปีนี้ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ หลังธุรกิจเหล็กยังขยายตัวได้ดี และรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มขึ้น จากการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัว
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,813.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464.27 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.64 เมื่อเทียบกับรายได้ในงวดปี 2555 ที่ทำได้ 4349.17 ล้านบาท ส่งผลให้ในปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 105.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.71 ล้านบาท หรือร้อยละ 313.09 ล้านบาท จากปี 2555 ที่ทำได้ 25.46 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นพื้นฐานที่ 0.13 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.10 บาทต่อหุ้น หรือร้อยละ 333.33 จากปี 2555 ที่มีกำไรต่อหุ้นพื้นฐานที่ 0.03 บาทต่อหุ้น
สำหรับกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยหลายประการไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะปัญหาเงินบาทแข็งค่าในช่วงต้นปี และสถานการณ์การเมืองไม่ปกติในช่วงปลายปี เป็นผลมาจากราคาขายเหล็กแท่งมีการปรับตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ ที่ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ ได้บริหารจัดการสินค้าคงเหลือ รวมถึงจัดซื้อวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สะท้อนให้ต้นทุนเศษเหล็กสำหรับปี 2556 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเติบโตของรายได้ โดยบริษัทฯ มีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 400.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.74 เมื่อเทียบกับรายได้จากการจำหน่ายเหล็ก สำหรับปี 2556 มีรายได้เพิ่มขึ้น 457.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.54 จึงสนับสนุนให้กำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว ประกอบกับในปี 2556 บริษัทฯ ได้รับรู้รายได้จากการลงทุนและให้คำปรึกษา จำนวน 11.86 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการให้คำปรึกษา และพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อย
“ในปี 2556 ถือว่าเป็นอีกปีที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สามารถผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ท่ามกลางปัจจัยหลายประการที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งปัจจัยหลักๆ นอกจากราคาเหล็กแท่งปรับตัวอยู่ในระดับที่ดีแล้ว ยังเป็นผลมาจากการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือ และจัดซื้อวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ CHOW
ประการสำคัญในปี 2556 เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานที่ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง คือ บริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด จึงช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตอย่างโดดเด่นตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอนาวิล กล่าว
เขากล่าวต่อถึงปี 2557 ว่า เชื่อว่าจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2556 ได้ เนื่องจากในธุรกิจเหล็กราคา Billet และความต้องการสินค้าในภาคธุรกิจยังอยู่ในระดับที่ดีโดยปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจพลังงานซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง ล่าสุด ได้เริ่มขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น อย่างเต็มตัว คาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องดังกล่าว
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,813.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464.27 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.64 เมื่อเทียบกับรายได้ในงวดปี 2555 ที่ทำได้ 4349.17 ล้านบาท ส่งผลให้ในปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 105.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.71 ล้านบาท หรือร้อยละ 313.09 ล้านบาท จากปี 2555 ที่ทำได้ 25.46 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นพื้นฐานที่ 0.13 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.10 บาทต่อหุ้น หรือร้อยละ 333.33 จากปี 2555 ที่มีกำไรต่อหุ้นพื้นฐานที่ 0.03 บาทต่อหุ้น
สำหรับกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยหลายประการไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะปัญหาเงินบาทแข็งค่าในช่วงต้นปี และสถานการณ์การเมืองไม่ปกติในช่วงปลายปี เป็นผลมาจากราคาขายเหล็กแท่งมีการปรับตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ ที่ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ ได้บริหารจัดการสินค้าคงเหลือ รวมถึงจัดซื้อวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สะท้อนให้ต้นทุนเศษเหล็กสำหรับปี 2556 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเติบโตของรายได้ โดยบริษัทฯ มีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 400.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.74 เมื่อเทียบกับรายได้จากการจำหน่ายเหล็ก สำหรับปี 2556 มีรายได้เพิ่มขึ้น 457.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.54 จึงสนับสนุนให้กำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว ประกอบกับในปี 2556 บริษัทฯ ได้รับรู้รายได้จากการลงทุนและให้คำปรึกษา จำนวน 11.86 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการให้คำปรึกษา และพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อย
“ในปี 2556 ถือว่าเป็นอีกปีที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สามารถผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ท่ามกลางปัจจัยหลายประการที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งปัจจัยหลักๆ นอกจากราคาเหล็กแท่งปรับตัวอยู่ในระดับที่ดีแล้ว ยังเป็นผลมาจากการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือ และจัดซื้อวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ CHOW
ประการสำคัญในปี 2556 เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานที่ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง คือ บริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด จึงช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตอย่างโดดเด่นตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอนาวิล กล่าว
เขากล่าวต่อถึงปี 2557 ว่า เชื่อว่าจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2556 ได้ เนื่องจากในธุรกิจเหล็กราคา Billet และความต้องการสินค้าในภาคธุรกิจยังอยู่ในระดับที่ดีโดยปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจพลังงานซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง ล่าสุด ได้เริ่มขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น อย่างเต็มตัว คาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องดังกล่าว