xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ เล็งหั่นเป้า GDP ปีนี้โตต่ำกว่า 2% มองครึ่งหลังปี 57 เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โบรกฯ เล็งหั่นเป้า GDP ปีนี้โตต่ำกว่า 2% มองครึ่งหลังปี 2557 ฟื้นตัวแบบขั้นบันได ส่วนครึ่งแรกปี 2558 เชื่อเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวได้เต็มที่

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ระบุว่า ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มที่จะปรับลด GDP Growth ต่ำกว่า 2% จากที่ประเมินไว้เดิม 2% โดยจะปรับลดตัวเลขในภาคส่งออก-นำเข้าสินค้าและบริการที่ประเมินไว้สูงเกินไป เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวล่าช้า โดยเฉพาะทางฝั่งของสหภาพยุโรปที่ยังประสบภาวะการว่างงานในอัตราสูงกว่า 11.5% และอาจจะเผชิญกับภาวะเงินฝืด

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังเผชิญความเสี่ยงเพิ่มเติม ภายหลังการตอบโต้ทางการค้าของรัสเซีย หลังจากที่สหรัฐฯและสหภาพยุโรปได้เริ่มคว่ำบาตรทางการค้าต่อรัสเซีย ซึ่งเป็นผลจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนในเขตปกครองตนเองไครเมีย คาดว่า ล่าสุดรัสเซียหยุดนำเข้าสินค้าอาหารจากสหรัฐฯ (ส่วนใหญ่คือเนื้อไก่แช่แข็ง) และหยุดนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากสหภาพยุโรป (เนื้อสัตว์ น้ำตาล และอาหารแห้ง เป็นต้น)

ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปคุมเข้มการส่งออกอุปกรณ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมัน รวมทั้งระงับการส่งออกเครื่องจักร ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยุทธปัจจัยทางทหารให้แก่รัสเซีย

โดยปัจจัยเหล่านี้อาจจะกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 อาจจะไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ IMF คาดการณ์ไว้ที่ 3.4% นอกจากนี้อาจจะปรับเพิ่มการบริโภคภาคครัวเรือน เนื่องจากเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่เริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ในครึ่งปีหลัง ฝ่ายวิจัย ASP คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่องหลังจากผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1/57 และเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในไตรมาส 2/57 หลังจากความไม่สงบทางการเมืองเริ่มคลี่คลายลงทำให้สามารถเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาได้อีกครั้ง

โดยในเดือน ก.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 (หลังจากที่ก่อนหน้ามีการชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 13 เดือน) และเพิ่มเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะการบริโภคของภาคเอกชน (ราว 55% ของ GDP)

ตามมาด้วยการเบิกจ่ายของภาครัฐที่คาดว่า จะเห็นความคืบหน้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ ตามการเร่งรัดของรัฐบาลรักษาการและภาคส่งออกที่คาดว่า จะเห็นการฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ คาดว่าการลงทุนโดยรวมยังมีแนวโน้มฟื้นตัวล่าช้า จนกว่าจะเห็นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่พร้อมจะผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสำคัญๆ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น การสร้างระบบรถไฟฟ้ารางคู่ ระบบขนส่งมวลชล และการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น

ส่วนครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยยังมีการฟื้นตัวแบบขั้นบันได แต่น่าจะเติบโตต่ำกว่าที่ ASP ประมาณไว้ราว 4.1% ต่อไตรมาส โดยน่าจะลดลงมาเหลือราว 3% เนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนยังมาการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภาคครัวเรือน ขณะที่ภาคส่งออกน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว

ทั้งนี้ เชื่อว่าในปี 2558 เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน นอกเหนือจากการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและภาครัฐที่ดีขึ้น คาดว่า การลงทุนโดยรวมน่าจะมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากเม็ดเงินลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ 2.4 ล้านล้านบาท ได้แก่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (รถไฟ, ก่อสร้างทางหลวง, พลังงาน และระบบบริหารจัดการน้ำ) ซึ่งน่าจะสร้างบรรยากาศการลงทุนเอกชน

พร้อมกันนี้ หากพิจารณายอดจำนวนโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุน พบว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเดือน ก.ค. มี 147 โครงการ สูงสุดตั้งแต่ ม.ค. 2556 ถึงแม้ว่ามูลค่าเงินลงทุนจะไม่สูงมาก แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนโครงการได้สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับมาอีกครั้ง รวมถึงการส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกตาม IMF ประมาณไว้ที่ 4% ในปี 2558
กำลังโหลดความคิดเห็น