“พฤกษา” แจงผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 57 โตสวนกระแสตลาด กวาดรายได้ 18,919 ล้านบาท โต 22.3% ขณะที่กำไร 2,934 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.5%
น.ส.สุภรณ์ ตรีวิชยพงศ์ กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ชี้แจงผลการดำเนินของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับงวด 3 เดือนแรก และ 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2557 โดยผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/57 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 10,846.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,740.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้หลักจากการขายอสังหาริมทรัพย์จำนวน 1,753.3 ล้านบาท เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว และมีกำไรสิทธิ 1,870.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.3 ของรายได้รวม โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 32.7
สำหรับรายได้รอบ 6 เดือน บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้ 18,919.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,454.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดี่ยวกันของปีก่อน มาจากปัจจัยหลักคือ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาฯ จำนวน 3,459.1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จาก ทาวน์เฮาส์ 11,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.1 เมื่อเทียบกับปี 56 ที่มีจำนวน 8,665 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 4,265 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.1 จาก 4,495 ล้านบาท, อาคารชุด 2,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 จาก 1,872 ล้านบาท, รายได้จากต่างประเทศ 225 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.9 จาก 304 ล้านบาท
ขณะที่มีผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนปี 57 มีกำไรสุทธิ 2,934.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.5 ของรายได้รวมมีกำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 751.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.5 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
ในไตรมาส 2 /57 บริษัท และบริษัทย่อยมีต้นทุนขายอสังหาฯ 6,833.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63.2 ส่วนรอบ 6 เดือนบริษัทมีต้นทุนขายอสังหาฯ 11,934.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63.4 ของรายได้จากการขายอสังหาฯ ขณะที่ต้นทุนในช่วงเดียวกันของปี 56 มีจำนวนร้อยละ 66 เนื่องจากสามารถบริหาร และควบคุมต้นทุนได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร ในรอบ 6 เดือน จำนวน 3,081.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 หรือจำนวน 606.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 56 แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายในการขาย 1,422.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ และค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย 115.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.9 ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มขึ้น 115.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.3 และค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ เพิ่มขึ้น 12.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของรายได้
ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารรอบ 6 เดือน จำนวน 1,659.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350.1 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน จำนวน 240.7 ล้านบาท ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น 28.4 ล้านบาท ค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 39 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารอื่นๆ จำนวน 42.1 ล้านบาท
