ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “สุภรณ์” ควงมารดาสาบานต่อหน้าย่าโม และชาวโคราชเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต บอก “แม้ว” ห้ามมาพูดการเมือง เผยฉายา “แรมโบ้อีสาน” เป็นตำนานแล้ว ยืนยันช่วยกองทัพสร้างปรองดอง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (30 พ.ค.) ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แกนนำ นปช. และอดีตประธาน อพปช. ได้เดินทางมาพร้อม นางสุ้น อัตถาวงศ์ อายุ 82 ปี มารดา และญาติพี่น้อง กราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) โดยมีกำลังทหารจำนวนหนึ่งคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่อย่างใกล้ชิด
นายสุภรณ์ได้พนมมือสาบานต่อหน้าย่าโม และต่อพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมาที่มากราบสักการะย่าโมว่า ปี 2544 ได้อาสาเป็นตัวแทนของประชาชนชาวโคราช ตั้งใจสูงที่อยากเป็น ส.ส.ของชาวโคราช และขอพรย่าโมจนได้เป็น ส.ส.เขต อ.ครบุรี-อ.เสิงสาง
เมื่อตนประกาศวางมือทางการเมืองก็ต้องมากล่าวบอกย่าโมว่า บัดนี้ลูกหลานคนนี้ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมืองและขอวางมือทางการเมืองตลอดไป และขอยุบองค์กร อพปช. วันนี้ตนได้พ้นจากความเป็นประธาน อพปช.เรียบร้อยแล้ว ขอแจ้งไปถึงสมาชิกของ อพปช.ทุกคน ทุกจังหวัดขอให้ยุติบทบาทเรื่องของ อพปช. อย่าได้เอาไปเคลื่อนไหว และวิงวอนขอให้สมาชิกทุกคนได้ให้ความร่วมมือต่อ คสช.ในการทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย อย่ามีการเคลื่อนไหว
นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า ภารกิจจากวันนี้ไปหน้าที่ของตนคือดูแลแม่และครอบครัว จะทำหน้าที่ในฐานะลูกหลานคนโคราช เป็นประชาชนคนหนึ่ง และจะอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ไม่ไปไหนเด็ดขาด และไม่อยากให้เรียกชื่อ “แรมโบ้อีสาน” อีก ขอให้ชื่อนี้เป็นตำนานทางการเมืองไป เพราะชื่อแรมโบ้อีสานเกิดจากสื่อมวลชนในสภาฯ สมัยที่ตนเป็น ส.ส.สมัยแรกได้ตั้งฉายาให้
ดังนั้น จากวันนี้ไปคำว่า แรมโบ้อีสาน ให้เป็นตำนานทางการเมือง จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการของผม นับจากวันนี้คือ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ลูกหลานชาวครบุรี-เสิงสางเป็นสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่ง นี่คือจุดยืนยัน
“ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ให้ คสช. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และคณะทุกคนให้สบายใจว่า เรา อพปช.จะไม่ได้การเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น”
นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า เมื่อเช้านี้ พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์บอกว่าจะตั้งตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ในภาคอีสาน ตนจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จะทำให้บรรยากาศในภาคอีสาน และ จ.นครราชสีมาเกิดความเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียวกัน จะไม่มีการแบ่งสี แบ่งฝ่าย จะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอีกต่อไปในสังคมอีสานและ จ.นครราชสีมาบ้านเรา
นอกจากนี้ นายสุภรณ์กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ไม่ได้ติดต่อมานานแล้ว จริงๆ ตนสัมพันธ์กับพรรคฯ แค่นั้นเอง สำหรับนิสัยตนไม่เคยประจบสอพลออะไร และไม่เคยบินไปหาท่านในต่างประเทศ ส่วนความสัมพันธ์ความเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ทางการเมืองเราไม่มีเยื่อใยต่อกันอีกแล้ว แม้ว่าต่อให้มาทาบทามก็ยืนยันว่าไม่ลงสมัคร ส.ส. ตนประกาศชัดเจนต่อหน้าย่าโมที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตนจะไม่ทำอะไรให้เกิดความหนักอกหนักใจต่อคณะ คสช.อย่างเด็ดขาด และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณติดต่อมาตนก็พูดคุยในฐานะผู้ใหญ่ถามความทุกข์ความสุขการเป็นอยู่ได้ แต่ห้ามคุยการเมือง แต่ยังคบอยู่เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ พี่สุเทพตนก็ยังคบอยู่เลย