น่าน - ผู้ปลูกข้าวโพดร้องทุกข์ ป.ป.ช.น่าน ตรวจสอบการทำงานพาณิชย์น่าน พร้อมเข้าพบแรมโบ้อีสาน ทวงถามสัญญาที่เคยรับปากว่าจะช่วยชาวไร่
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (24 มี.ค.) ชาวไร่ข้าวโพดจาก อ.บ้านหลวง สองแคว สันติสุข และปัว จ.น่าน กว่า 100 คนรวมตัวเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ประจำ จ.น่าน เพื่อให้ตรวจสอบโครงการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2556-2557 และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดน่าน โดยมีนายเจริญชัย ศรีหาตา เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ช.น่าน เป็นผู้รับเรื่องและหลักฐาน
นายเรืองเดช จอมเมือง ตัวแทนเกษตกร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเกษตรกรกว่า 3 หมื่นราย ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้งเรื่องการออกใบรับรองที่ล่าช้า และตกหล่น รวมทั้งเงินค่าชดเชยก็ไม่ได้เป็นไปตามมติ ครม.ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายกิโลกรัมละ 1.50 บาท แต่กลับจ่ายจริงแค่ 1 บาท
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดน่านยังปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีการตัดรายชื่อเกษตรกรที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งให้เกษตรกรทราบว่า ผู้ประกอบการจะจ่ายเงินชดเชยให้รายละ 3,500 บาท หรือข้าวโพด 2,500 กิโลกรัมจะยินยอมหรือไม่ ซึ่งหากเกษตรกรรายได้ไม่ยินยอมก็จะถูกตัดรายชื่อจากโครงการทั้งที่มีรายชื่อและได้การรับรองแล้ว
อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังไม่ชี้แจงข้อมูลที่เป็นจริงให้เกษตรกรทราบเรื่องตัวเลข จำนวนเงิน จำนวนกิโลกรัมที่เกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ว่าแท้จริงแล้วรัฐบาลช่วยเหลือเพิ่มเติมให้เกษตรกรในอัตราความชื้นที่ 30% หรือมูลค่าเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 21.60% หรือใน 1 ไร่ เกษตรกรจะได้จำนวนข้าวโพดเพิ่มขึ้นประมาณ 140 กิโลกรัม ยกเว้นในส่วนที่เกิน 25 ตันคงเดิม จึงทำให้ผู้ประกอบการจ่ายเงินให้เกษตรกรตามตัวเลขที่ปรากฏในใบรับรองเท่านั้น
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จ่ายเงินให้ผู้ประกอบการเกิน 1.50 บาท หรือเกินขึ้นมาอีกประมาณ 21.60% เป็นเงินกว่า 65 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเกษตรกรแย้งถามก็อ้างว่าเป็นค่าบริหารจัดการ ไม่ใช่ของเกษตรกร จึงต้องการให้มีการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมแก่เกษตรกรที่ควรต้องได้รับเงินค่าชดเชยตามจำนวนน้ำหนักและความชื้นเท่านั้น ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยโดยที่เกษตรกรไม่ได้รับรู้และไม่ยินยอม
ด้านนายเจริญชัยกล่าวว่า จะเร่งรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายผู้ร้อง ซึ่งเป็นเกษตรกร และฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดน่าน และผู้ประกอบการรับซื้อพืชผลทางการเกษตร ส่งเข้า ป.ป.ช.ส่วนกลางเพื่อตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายโดยเร็ว
หลังยื่นหนังสือ กลุ่มเกษตรกรพากันเข้าพบนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่เดินทางมาเป็นประธานประชุมแกนนำ นปช.17 จังหวัดภาคเหนือ ที่โรงแรมเทวราช เพื่อทวงถามการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเคยรับปากเมื่อครั้งเดินทางมาเจรจากับม็อบข้าวโพดเมื่อกลางปี 2556 โดยนายสุภรณ์รับปากจะนำเรื่องนี้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดน่านอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว